ราคาทองคำโลกสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงจากระดับ 1,287 เหรียญสหรัฐเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่บริเวณ 1,277 เหรียญสหรัฐ (ณ วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2559 เวลา 12.30 น.) หรือปรับลดลงประมาณ -10 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ โดยเจอแรงกดดันจากความเห็นของประธานเฟดบางสาขาที่สนับสนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น
ราคาทองคำระหว่างสัปดาห์แกว่งตัวระหว่าง 1,256.78-1,287.48 เหรียญสหรัฐ โดยเป็นการแกว่งตัวขึ้นลงตลอดสัปดาห์ ก่อนที่ปลายสัปดาห์ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจากประธานเฟดสาขาบอสตัน ออกมาสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น และให้ความเห็นว่าโลกกำลังประเมินการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่ำเกินไป ซึ่งเฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้แล้ว ทำให้เกิดแรงขายทองคำออกมาในค่ำคืนวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา
ทองคำ ได้รับปัจจัยบวกเล็กน้อยจากตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น 20,000 ตำแหน่ง มาอยู่ที่ระดับ 294,000 ราย ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดไว้เพียงระดับ 277,000 รายเท่านั้น และกองทุน SPDR Gold Trust ยังซื้อทองคำเพิ่มขึ้นเป็นวันทำการที่ 7 ติดต่อกัน โดยมีทองคำในมืออยู่ราว 845.19 ตัน
ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงพอสมควร จากระดับ 35.098 บาทต่อดอลลาร์ มาอยู่ 35.370 บาทต่อดอลลาร์ หรืออ่อนค่าลงประมาณ 0.272 บาทต่อดอลลาร์ หนุนให้ราคาทองคำแท่ง และรูปพรรณในไทยปรับตัวน้อยกว่าตลาดโลก
คำแนะนำ สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้น ได้ซื้อทองคำคืนอีกครั้งบริเวณ 1,240-1,250 เหรียญสหรัฐ และราคาทองคำได้ขึ้นมาถึงเป้าหมายบริเวณ 1,275-1,285 เหรียญสหรัฐเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหากราคาทองคำยังยืนเหนือบริเวณ 1,240-1,250 เหรียญสหรัฐได้ แนะนำให้ซื้อทองคำคืนบริเวณดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,300-1,320 เหรียญสหรัฐอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับการลงทุนในระยะยาว ยังแนะนำให้สะสมทองคำแท่งราคาต่ำกว่า 1,180 เหรียญสหรัฐได้ โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และธนาคารกลางอื่นๆ ทั่วโลกยังคงนโยบายดอกเบี้ยต่ำ หรือดอกเบี้ยติดลบ และความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะมีมากขึ้น โดยเป้าหมายภายในปีนี้ยังอยู่บริเวณ 1,320 เหรียญสหรัฐ
สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช
ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก