ธนชาต เดินหน้าขยายฐานลูกค้าเงินฝากออมทรัพย์ ปรับโครงสร้าง ลดต้นทุน พัฒนา 3 ผลิตภัณฑ์กลุ่ม “ฟรีเวอร์” ฟรีค่าธรรมเนียมธุรกรรมตามความเหมาะสมของแต่ละ Segment เพิ่มสัดส่วนเป็น 60% ใน 3 ปี พร้อมดันเป็นธนาคารหลักของลูกค้า
นายอนุรักษ์ ตันติพัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโส ธุรกิจลูกค้ารายย่อย ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารยังคงมุ่งเน้นในแนวทางการขยายฐานเงินฝากออมทรัพย์เพื่อปรับโครงสร้างเงินฝากให้เหมาะสมต่อการบริหารต้นทุน จากปัจจุบัน ธนาคารมีจำนวนบัญชีเงินฝากรวม 3 ล้านบัญชี เป็นบัญชีเงินฝากในกลุ่มฟรีเวอร์ดังกล่าว 150,000-160,000 บัญชี ตั้งเป้าหมายปีนี้เติบโต 20-30% หรือประมาณ 30,000-50,000 บัญชี และตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ขึ้นเป็น 60% ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 42-43%
โดยได้ปรับสิทธิประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเงินฝากบัญชี “ฟรีเวอร์” เป็น 3 ประเภทให้เหมาะต่อกลุ่มลูกค้าแต่ละ Segment มากขึ้น ได้แก่ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ฟรีเวอร์ เหมาะต่อลูกค้ากลุ่าพนักงานบริษัททั่วไป ฟรีกดเงินจากตู้ ATM ทุกตู้ ฟรีโอนเงิน และจ่ายบิลที่ตู้ ATM ธนชาต ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตรายปีเพียงคงยอดเงินไว้ในบัญชีเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 5,000 บาทต่อเดือน ส่วนบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ฟรีเวอร์ ไลท์ เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่เพิ่งทำงาน มีสิทธิประโยชน์เดียวกันแต่ไม่จำเป็นต้องคงเงินฝากไว้ในบัญชีตามจำนวนที่กำหนด แต่ก็จะไม่ได้สิทธิพิเศษยกเว้นค่าธรรมเนียม และบัญชีเงินฝากกระแสรายวันฟรีเวอร์ มอร์ เหมาะสำหรับลูกค้าที่ทำการค้า หรือเอสเอ็มอีขนาดเล็กที่เน้นการทำธุรกรรมผ่านเช็ค สามารถประหยัดค่าธรรมเนียมมากมาย โดยธนาคารจะเก็บค่าธรรมเนียมเหมาจ่ายเพียงเดือนละ 199 บาท/บัญชี
นายอนุรักษ์ กล่าวอีกว่า แม้ว่าปัจจุบันความต้องการสินเชื่อจะยังมีไม่มากนัก แต่การที่ธนาคารเร่งรุกขยายลูกค้าบัญชีออมทรัพย์นี้ก็เพื่อเป็นปรับโครงสร้างของเงินฝาก เพื่อลดต้นทุนของเงินทุนไปด้วย ขณะที่เงินฝากประจำจะทรงตัวอยู่ในระดับเดิม หรือลดลงไปบ้างก็จะทำให้สัดส่วนเงินฝากออมทรัพย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไป โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา สถานการณ์เงินฝากโดยรวมเงินฝากลดลงเล็กน้อยประมาณ 1 พันล้านบาท โดยเงินฝากประจำลดลง 5% สอดคล้องต่อความต้องการสินเชื่อที่ไม่มากนัก
“การขยายฐานลูกค้าเงินฝากบัญชีออมทรัพยฺ์ นอกจากจะได้ฐานลูกค้าใหม่ และยังจะเป็นหนทางนำสู่การเป็นธนาคารหลักที่ลูกค้าเลือกใช้ ซึ่้งจะต้องถือผลิตภัณฑ์ของธนาคาร 3-4 อย่างต่อราย และยังเป็นการเตรียมพร้อมรับการเข้าสู่ระบบ อี-เพย์เมนต์ ด้วย”