BJC ตั้ง บ.ย่อย 4 แห่ง ทั้งในไทย และฮ่องกงเพื่อลงทุนระยะยาว และเป็นการรองรับแผนธุรกิจของกลุ่มบริษัท
บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) แจ้งว่า ช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้ตั้งบริษัทย่อยใหม่ 4 แห่ง เพื่อลงทุนในนิติบุคคลอื่น (Holding Company) โดยถือหุ้นสัดส่วน 100% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด เพื่อเป็นการลงทุนระยะยาวตามแผนงานธุรกิจของกลุ่มบริษัท
สำหรับบริษัทย่อยที่ตั้งขึ้นใหม่ ได้แก่ บริษัท บีเจซี (ฮ่องกง) คอมปะนี ลิมิเต็ด (บีเจซี-เอชเค) ในฮ่องกง มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 4.53 ล้านบาท บริษัท บีเจซี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (บีเจดีเอ็ม) ในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียน 1 แสนบาท บริษัท สัมพันธ์กิจ จำกัด (เอสพีเค) ในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียน 1 แสนบาท และบริษัท บีเจซี เมก้า มาร์เก็ต จำกัด (บีเจเอ็มเอ็ม) ในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียน 1 แสนบาท
ทั้งนี้ บริษัท คาดว่าการจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ดังกล่าวจะได้รับผลตอบแทนในรูปรับเงินปันผล ศักยภาพ และผลประกอบการที่ดีทางธุรกิจ
บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) แจ้งว่า ช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้ตั้งบริษัทย่อยใหม่ 4 แห่ง เพื่อลงทุนในนิติบุคคลอื่น (Holding Company) โดยถือหุ้นสัดส่วน 100% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด เพื่อเป็นการลงทุนระยะยาวตามแผนงานธุรกิจของกลุ่มบริษัท
สำหรับบริษัทย่อยที่ตั้งขึ้นใหม่ ได้แก่ บริษัท บีเจซี (ฮ่องกง) คอมปะนี ลิมิเต็ด (บีเจซี-เอชเค) ในฮ่องกง มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 4.53 ล้านบาท บริษัท บีเจซี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (บีเจดีเอ็ม) ในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียน 1 แสนบาท บริษัท สัมพันธ์กิจ จำกัด (เอสพีเค) ในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียน 1 แสนบาท และบริษัท บีเจซี เมก้า มาร์เก็ต จำกัด (บีเจเอ็มเอ็ม) ในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียน 1 แสนบาท
ทั้งนี้ บริษัท คาดว่าการจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ดังกล่าวจะได้รับผลตอบแทนในรูปรับเงินปันผล ศักยภาพ และผลประกอบการที่ดีทางธุรกิจ