บมจ.เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ เตรียมเข้าเทรดหุ้น IPO กว่า 30 ล้านหุ้น ในไตรมาส 2 หลัง ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่งเรียบร้อยแล้ว ตั้งเป้าระดมขยายธุรกิจอี คอมเมิร์ซ และ Financial Technology ตามนโยบายรัฐ พร้อมตั้งเป้าเติบโตไม่น้อยกว่า 20-25%
นายธวัชชัย ชีวานนท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ หรือ ASN กล่าวถึงแผนการเข้าจดทะเบียนซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ mai ว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นได้ภายในไตรมาสที่ 2/2559 นี้ โดยบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าระดมทุนขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไป หรือ IPO ครั้งแรก จำนวน 30 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) ที่ 50 สตางค์ต่อหุ้น หรือคิดเป็น 23.1% ของหุ้นสามัญที่ชำระแล้ว ซึ่งจะทำให้กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมถือครองหุ้นเพียง 76% เท่านั้น
อย่างไรก็ดี จุดประสงค์ของการระดมทุนเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาระบบฐานข้อมูล การเพิ่มบุคลากรจากที่มีอยู่ในปัจจุบัน จำนวน 200 คน เพิ่มขึ้นเป็น 300 คน และพัฒนาระบบอีคอมเมิร์ซ เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ และนโยบายด้าน FINTECH (Financial Technology) ในอนาคต และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ
นอกจากนี้ ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2559 หลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้วนั้น บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจประกันในส่วนของเบี้ยประกันรวมไว้ที่ 20-25% จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 950 ล้านบาท ขณะที่ในส่วนของรายได้รวมคาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 20-25% หรือประมาณ 200 ล้านบาท เทียบจากรายได้ในปี 2558 ซึ่งอยู่ที่ 161 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ไม่น้อยกว่า 25 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ แบ่งเป็นรายได้ที่มาจากการประกันวินาศภัย และประกันรถยนต์ จำนวน 75% และธุรกิจประกันชีวิต 25% ซึ่งบริษัทฯ ประเมินว่า หลังจากที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai แล้ว ภายในระยะเวลา 5-10 ปีข้างหน้า บริษัทจะสามารถทำรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะเป็นรายได้ที่มีนัยสำคัญ เนื่องจากมีความหลากหลายจากหลายช่องทาง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีแผนการเข้าไปลงทุนด้านธุรกิจโบรกเกอร์ประกันในกลุ่มประเทศ AEC ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการศึกษาข้อมูล โดยจะมีทั้งการเข้าไปลงทุนเอง และร่วมกับพันธมิตร ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในเร็วๆ นี้
