ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน จำนวน 10 ราย ซึ่งเพิ่งถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ครั้งล่าสุด แม้กระทำความผิดที่หลากหลาย แต่มีอยู่ 1 ราย ที่ก่อความผิดซึ่งไม่เคยมีผู้บริหารจดทะเบียนคนใดเคยถูกกล่าวโทษมาก่อน นั่นคือ แพร่ข่าวเท็จ ลวงให้นักลงทุนเข้าไปเก็งกำไรหุ้นของตัวเอง
อดีตผู้บริหารบริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปัจจุบัน เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เฟอร์รั่ม จำกัด (มหาชน) ถูกลงโทษปรับ 5 แสนบาท ในความผิดแพร่ข่าวเท็จเกี่ยวกับการเพิ่มทุนของบริษัทผ่านสื่อตลาดหลักทรัพย์
เป็นครั้งแรกที่ ก.ล.ต.สั่งลงโทษผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนในข้อหาปล่อยข่าวเท็จ ซึ่งหวังว่า จะมีการลงโทษในความผิดปล่อยข่าวเท็จครั้งต่อไปตามมา เพราะการปล่อยข่าวลวง การสร้างข่าวเท็จจริงโดยผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
ประมาณ 3-4 สัปดาห์ก่อน ก.ล.ต.เพิ่งประกาศจะพิจารณาลงโทษผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่สร้างข่าวเกินจริง เข้าข่ายชี้นำราคาหุ้น เพียงแต่ยังไม่ได้กำหนดมาตรการชัดเจนว่าจะลงโทษอย่างไร
ผู้บริหารจดทะเบียนจำนวนมากทำตัวเป็นพวก “ขี้โม้” มากนานแล้ว โดยเฉพาะผู้บริหารหุ้นขนาดเล็ก
หุ้นตัวเล็กจะมีข่าวลือถูกปล่อยมาต่อเนื่อง ส่วนผู้บริหารบริษัทก็ขยันให้ข่าวดีเหลือเกิน
ข่าวดีที่สร้างขึ้นมายั่วต่อมเก็งกำไรนักลงทุนรายย่อยมักจะเป็นการคาดการณ์แนวโน้มผลดำเนินงาน โดยฝอยกันไปว่า จะเติบโตเท่านั้นเท่านี้ โม้กันว่าจะขยายการลงทุนโน่น นี่ นั่น คุยโอ่ว่า ยอดขายจะเติบโตระเบิดเถิดเทิงบ้าง หรือกำลังมีต่างชาติสนใจร่วมทุนบ้าง
ยังไม่นับรวมการสร้างแตกพาร์ หรือสปลิทหุ้น และการออกวอร์แรนต์แจกผู้ถือหุ้น
บริษัทพลังงานไฟฟ้าทางเลือก ถ้าเฝ้าสังเกตพฤติกรรมจะสร้างข่าวดีถี่ยิบ จะทำโน่นทำนี่ ตั้งเป้าเติบโตอย่างหยาดเยิ้ม ชวนนักลงทุนฝันหวาน แต่เมื่อตามแห่ไล่ซื้อหุ้นเข้ามาแล้วนักลงทุนมักฝันค้างเพราะถูกผู้บริหารบริษัทสร้างข่าว “แหกตา”
ยิ่งบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนใหม่ เตรียมเสนอขายหุ้นให้นักลงทุนทั่วไปยิ่งจำเป็นต้อง “โม้” ให้มาก ต้องวางแผนสร้างข่าวดีเป็นระยะ และถึงขนาดต้องจัดงบโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อก็มี
ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนถูกปล่อยให้ “โม้” จนได้ใจ ทั้งที่การสร้างข่าวชี้นำราคาอยู่ในข่ายกระทำความผิด ยิ่งสร้างข่าวเท็จชี้นำ ยิ่งผิดชัดเจน ซึ่งนักลงทุนสามารถร้องเรียนให้ ก.ล.ต.ดำเนินคดีได้
แต่ไม่เคยมีใครเอาจริงต่อผู้บริหารจดทะเบียนขี้โม้ทั้งหลาย
นักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่ต้องตกเป็นเหยื่อของบริษัทจดทะเบียนขี้โม้ โดยเข้าไปซื้อหุ้นเพราะถูกชี้นำด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จ ถูกผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนชักจูงโดยการสร้างข่าวเกินจริงจนเกิดสำคัญผิดในแนวโน้มผลดำเนินงาน
คิดว่า ผลกำไรบริษัทจะเติบโตสูง ยอดรายได้จะทะลัก แต่กลับขาดทุนย่อยยับ
ถ้ามีการรวบรวมคำให้สัมภาษณ์ผู้บริหารจดทะเบียนไว้ ถ้ามีการเก็บบันทึกการให้ข่าวแต่ละครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปหากสิ่งที่ผู้บริหารจดทะเบียนโม้ไว้ไม่เกิดขึ้นจริง หลักฐานการให้สัมภาษณ์ หรือการให้ข่าวน่าจะนำไปสู่การดำเนินคดีทั้งแพ่ง และอาญาได้
แต่เพราะไม่มีใครใส่ใจเล่นงาน ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนขี้โม้ หลอกลวงนักลงทุนจึงยังลอยนวลอยู่
ดังนั้น เมื่อ ก.ล.ต.เอาจริงจะเชือดผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนขี้โม้ ควรเริ่มต้นเก็บรวบรวมการให้สัมภาษณ์ หรือการให้ข่าวของผู้บริหารจดทะเบียนไว้ ใคร “ขี้โม้” เพื่อกระตุ้นราคาหุ้น ใคร “แหกตา” ผู้ลงทุน เล่นงานให้หนัก เชือดไก่ให้ลิงดูอีกสักที
ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนเล่นลิงหลอกเจ้ามานานเต็มทีแล้ว บางทีเป็นต้นตอปล่อยข่าวจุดพลุราคาหุ้น แต่เมื่อตลาดหลักทรัพย์สอบถาม และจี้ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงแกล้งทำเป็นปฏิเสธข่าว ทั้งที่เป็นตัวการสร้างปล่อยข่าวลือเพื่อลากนักลงทุนรายย่อยไปเชือด
ก.ล.ต.ประกาศแล้วจะฟันบริษัทจดทะเบียนที่ให้ข่าวเกินจริง แต่ขอให้กำหนดบทลงโทษออกมาเร็วๆ เท่านั้น เพราะเบื่อฟังผู้บริหารหุ้น “ขี้โม้” กันเต็มทนแล้ว
