ทายาท “ว่องกุศลกิจ” เปิดตัว “โกลว์ฟิช” เซอร์วิส ออฟฟิศใจกลางเมือง

ทายาท “อิสระ ว่องกุศลกิจ” เปิดตัว “โกลว์ฟิช” เซอร์วิส ออฟฟิศใจกลางเมือง เผยรองรับการเติบโตธุรกิจสตาร์ทอัป เตรียมขยายสาขาเพิ่มหลังพื้นที่เช่าใกล้เต็ม อนาคตเตรียมลงทุนเปิดในต่างประเทศ เล็งอินโดนีเซีย เวียดนาม

นายกวิน ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮอริเทจ เอสเตทส์ จำกัด ผู้ให้บริการเช่าพื้นที่สำนักงานรายเดือน เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวพื้นที่สำนักงานให้เช่า Glowfish “โกลว์ฟิช” เซอร์วิส ออฟฟิศ สาขาที่ 2 บนศูนย์การค้าเซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ บนพื้นที่ 900 ตร.ม. ด้วยงบลงทุนกว่า 30 ล้านบาท เนื่องจากมองเห็นโอกาสจากการเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัป หรือธุรกิจเกิดใหม่ นักธุรกิจชาวต่างชาติ ซึ่งกลุ่มนี้หลังจากเติบโตได้ระดับหนึ่งจะต้องการพื้นที่การทำงานที่มากขึ้น หากเช่าพื้นที่สำนักงานในทำเลที่มีศักยภาพใจกลางเมืองจะต้องจ่ายค่าเช่าแพง ค่าตกแต่ง เพิ่มพนักงาน ดังนั้น เซอร์วิส ออฟฟิศ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้แก่ผู้ที่เริ่มขยายธุรกิจที่ต้องการประหยัดต้นทุน

Glowfish สาขาสยาม เป็นทางเลือกใหม่ในการตั้งสำนักงานให้แก่ธุรกิจใหม่ โดยเน้นความสะดวกในการเดินทาง เนื่องจากมีทางเชื่อมโดยตรงจากสถานีรถไฟฟ้าสยาม รวมถึงการที่ตั้งอยู่ใจกลางศูนย์รวมห้างสรรพสินค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ Glowfish สยาม มีออฟฟิศให้เช่าพร้อมบริการ ระยะสั้น และระยะยาว ทั้งหมด 26 ห้อง ค่าเช่าเริ่มต้น 50,000 บาท/เดือน โดยมีพื้นใช้สอยส่วนกลาง ได้แก่ Library, Pantry, Nap Room และ Lounge ที่มีองค์ประกอบความเป็นบ้านอยู่ทุกซอกทุกมุม เพื่อเป็นที่ให้สมาชิกผ่อนคลาย ทำให้ Glowfish เป็นมากกว่าที่ทำงานทั่วไป นอกจากนี้ ยังมีบริการห้องประชุม และห้องจัดงานอเนกประสงค์ที่สามารถจุได้ 100 คน เหมาะสำหรับจัดงานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น สัมมนา, workshop, งานแถลงข่าว, ฉายหนัง หรือแสดงงานศิลปะ

Glowfish เปิดสาขาแรกที่อโศก ทาวเวอร์ ในปี 2553 ด้วยการเป็นต้นแบบของพื้นที่การทำงานสมัยใหม่ที่ออกแบบสร้างบรรยากาศการทำงานที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีร้าน Kuppadeli ที่เสิร์ฟอาหาร และเครื่องดื่มให้แก่สมาชิก และแขกด้วยมาตรฐานเดียวกันกับร้าน Kuppadeli ทั้ง5 สาขาทั่วกรุงเทพฯ รวมทั้งบริการ catering service และบริการ personal chef รองรับการจัดงานในห้องประชุม และห้องจัดงานอีกด้วย

นายกวิน กล่าวต่อว่า หลังจากเปิดให้บริการได้ 3 เดือน คาดว่าจะมีผู้เช่าเต็มในเร็วๆ นี้ ทำให้บริษัทมองหาพื้นที่เพื่อเปิดสำนักงานแห่งใหม่ โดยมองไว้ 2-3 แห่ง ใช้พื้นที่กว่า 1,500 ตร.ม. ติดสถานีรถไฟฟ้า เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจสตาร์ทอัปที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศในเอเชีย ซึ่งเบื้องต้น สนใจที่อินโดนีเซีย และเวียดนาม ซึ่งให้ผลตอบแทนในการลงทุนสูงกว่าไทย