บมจ.เจตาแบค หรือ GTB ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องกำเนิดไอน้ำรายใหญ่ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai 23 มี.ค.นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,104 ล้านบาท
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ.เจตาแบค (GTB) จะเข้าจดทะเบียน และเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ในวันที่ 23 มีนาคมนี้ โดยกลุ่มบริษัท GTB ดำเนินธุรกิจผลิต ประกอบและซ่อมสร้างเครื่องกำเนิดไอน้ำ (steam boiler) ระบบเผาไหม้ (combustion system) และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องต่องานวิศวกรรมพลังงานความร้อน (thermal energy engineering) ภายใต้ตราสินค้า “GETABEC” ซึ่งจำหน่ายทั้งใน และต่างประเทศ และรับจ้างผลิต (OEM) เครื่องกำเนิดไอน้ำให้แก่ผู้ผลิตเครื่องกำเนิดไอน้ำที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องกำเนิดไอน้ำและอุปกรณ์ประกอบต่างๆ จากบริษัทชั้นนำระดับโลก รวมถึงมีรายได้จากงานซ่อมแซม บำรุงรักษาผลิตภัณฑ์ และการรับจ้างตรวจสอบประเมินเครื่องกำเนิดไอน้ำด้วย
อย่างไรก็ดี GTB มีทุนชำระแล้ว 240 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 720 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 240 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 16-18 มีนาคม 2559 ในราคาหุ้นละ 1.15 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 276 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,104 ล้านบาท มีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
ขณะที่ นายสุชาติ มงคลอารีย์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจตาแบค (GTB) เปิดเผยว่าบริษัทให้ความสำคัญต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์และมาตรฐานความปลอดภัย มีทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญ และสามารถให้บริการได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ การเลือกประเภทผลิตภัณฑ์ การเลือกประเภทเชื้อเพลิง และการบริการหลังการขาย ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมเกือบทุกประเภท ปัจจุบัน มีสาขาบริการจำนวน 6 สาขา ได้แก่ ระยอง สมุทรปราการ สมุทรสาคร สงขลา สระบุรี และพิษณุโลก สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปขยายพื้นที่ และเพิ่มกำลังการผลิตที่โรงงานระยอง และโรงงานบางพลี จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรม ลงทุนการวิจัย และลงทุนพัฒนาโปรแกรมคำนวณ และออกแบบทางวิศวกรรม รวมถึงเปิดสำนักงานขาย และบริการในประเทศ และต่างประเทศ
ทั้งนี้ GTB มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มมงคลอารีย์พงษ์ ถือหุ้น 74.99% นายไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ถือหุ้น 0.38% และนายสมชัย พิสพหุธาร ถือหุ้น 0.36% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 16.43 เท่า คำนวณจากผลประกอบการในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 มกราคม-31 ธันวาคม 2558) ซึ่งเท่ากับ 68.90 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.07 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิที่เหลือหลังจากหักภาษี และการจัดสรรสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด