บอร์ด “เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ” จ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 58 ให้แก่ผู้ถือหุ้นเพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท จากครึ่งปีแรกจ่ายไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท รวมจ่ายทั้งปี 0.15 บาทต่อหุ้น ผู้บริหารตั้งเป้าปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% ส่วนยอดจำหน่ายถ่านหินตั้งเป้าไว้ที่ 11 ล้านตัน เน้นบริหารต้นทุน รักษาฐานลูกค้าเก่า และขยายฐานลูกค้ารายใหม่เพิ่ม
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2559 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับงวดครึ่งหลังปี 2558 ให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดเพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท จำนวน 3,504,053,611 หุ้น ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท รวมจ่ายเงินปันผลงวดปี 2558 ในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้นเป็นเงิน 499.14 ล้านบาท
โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 16 มีนาคม ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 17 มีนาคม 2559 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 14 มีนาคม 2559 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2559
สำหรับผลประกอบการประจำปี 2558 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ของบริษัท และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 1,026.88 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,045.67 ล้านบาท ลดลง 1.82% และในปี 2558 มีรายได้จากการขายเท่ากับ 16,846.75 ล้านบาท ส่วนในปี 2557 มียอดขายเท่ากับ 14,910.92 ล้านบาท ยอดขายเพิ่มจากปีก่อน 1,935.83 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.98% โดยมีสาเหตุมาจากรายได้จากการขายต่างประเทศในปี 2558 เท่ากับ 12,461.68 ล้านบาท โดยเพิ่มจากปี 2557 เท่ากับ 2,778.35 ล้านบาท หรือคิดเป็น 28.69% เนื่องจากปริมาณการขายเพิ่มขึ้นจากการจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศจีน ทำให้บริษัทขยายฐานลูกค้าในประเทศจีนเพิ่มขึ้น รวมถึงบริษัทได้มีการขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยในปี 2558 บริษัทสามารถขายไปยังประเทศเกาหลีใต้ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศบังกลาเทศ
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปี 2559 บริษัทฯ จะเน้นการบริหารต้นทุนธุรกิจทุกภาคส่วน เพื่อรักษาผลการดำเนินงานให้เติบโตในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงที่ผ่านมา โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 2558 พร้อมตั้งเป้าปริมาณขายถ่านหินไว้ที่ 11 ล้านตัน ซึ่งบริษัทจะเน้นรักษาฐานลูกค้าเก่า เช่น จีน เกาหลีใต้ และอินเดีย และล่าสุด มีลูกค้ารายใหม่จากบังกลาเทศ และฮ่องกง เพิ่มเข้ามา และปีนี้บริษัทได้ยื่นประมูลจำหน่ายถ่านหินให้แก่โรงไฟฟ้าในไต้หวัน
“ในทุกๆ ปีบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของผลประกอบการแบบ Conservative มาตลอด แต่จะรักษาระดับการเติบโตให้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นรักษาฐานลูกค้าเก่า และขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่ม ซึ่งในปีนี้เชื่อว่าฐานลูกค้าเก่ายังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ยังเน้นบริหารต้นทุนในธุรกิจทุกภาคส่วนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผลการดำเนินงานเติบโตได้ในระยะยาว” นายขจรพงศ์ กล่าว