ราชธานีลิสซิ่ง งวดสิ้นปี 58 กำไรกว่า 748 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีก่อน 6.33% แม้เศรษฐกิจในประเทศชะลอ ผลดีจากค่าใช้จ่ายทางการเงินต่ำลง และรักษาส่วนแบ่งทางสินเชื่อได้อย่างต่อเนื่อง
นายบุญชู วงศ์ภักดี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI แจ้งผลงานงวดสิ้นปี 2558 สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2558 (ก่อนตรวจสอบ) ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 748.66 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนหน้ามีกำไรสุทธิ 704.08 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44.58 ล้านบาท คิดเป็น 6.33% แม้ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงชะลอตัวลง แต่บริษัทยังคงรักษาระดับการทำกำไรให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
โดยบริษัทมีรายได้รวม 2,781.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 27.95 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.02% และมีค่าใช้จ่ายทางการเงิน 1,016.40 ล้านบาท ลดลงจากปี 2557 มี 55.50 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.18% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญสำหรับปี 2558 มี 411.92 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 20.42 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.72% เป็นผลมาจากการที่บริษัทยังคงรักษาส่วนแบ่งสินเชื่อในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการจัดหาเงินกู้ที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำ ทำให้ภาพรวมผลประกอบการดีกว่าปีก่อน
ขณะที่ในไตรมาส 4 ของปี 2558 บริษัทมีกำไรสุทธิ 169.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 26.16 ล้านบาท หรือ 18.26% โดยมีรายได้รวม 701.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.07 ล้านบาท หรือ 1.75% โดยที่ค่าใช้จ่ายทางการเงินมี 249.91 ล้านบาท ลดลง 18.00 ล้านบาท หรือ 6.72% จากการจัดหาแหล่งเงินกู้ยืมที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำ เพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อของบริษัท และมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญมี 117.13 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 22.74 ล้านบาท หรือ 16.26% เป็นผลมาจากคุณภาพลูกหนี้ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทตั้งสำรองลดลง
นายบุญชู วงศ์ภักดี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI แจ้งผลงานงวดสิ้นปี 2558 สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2558 (ก่อนตรวจสอบ) ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 748.66 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนหน้ามีกำไรสุทธิ 704.08 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44.58 ล้านบาท คิดเป็น 6.33% แม้ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงชะลอตัวลง แต่บริษัทยังคงรักษาระดับการทำกำไรให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
โดยบริษัทมีรายได้รวม 2,781.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 27.95 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.02% และมีค่าใช้จ่ายทางการเงิน 1,016.40 ล้านบาท ลดลงจากปี 2557 มี 55.50 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.18% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญสำหรับปี 2558 มี 411.92 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 20.42 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.72% เป็นผลมาจากการที่บริษัทยังคงรักษาส่วนแบ่งสินเชื่อในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการจัดหาเงินกู้ที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำ ทำให้ภาพรวมผลประกอบการดีกว่าปีก่อน
ขณะที่ในไตรมาส 4 ของปี 2558 บริษัทมีกำไรสุทธิ 169.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 26.16 ล้านบาท หรือ 18.26% โดยมีรายได้รวม 701.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.07 ล้านบาท หรือ 1.75% โดยที่ค่าใช้จ่ายทางการเงินมี 249.91 ล้านบาท ลดลง 18.00 ล้านบาท หรือ 6.72% จากการจัดหาแหล่งเงินกู้ยืมที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำ เพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อของบริษัท และมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญมี 117.13 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 22.74 ล้านบาท หรือ 16.26% เป็นผลมาจากคุณภาพลูกหนี้ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทตั้งสำรองลดลง