นักวิเคราะห์ฯ มองปัจจัยใน-นอกประเทศยังกดดัน SET เผยระดับแนวรับที่ 1,240-1,250 จุด เป็นจุดที่นักลงทุนน่าจะทยอยซื้อสะสมได้แล้ว เพราะอยู่ในระดับที่เหมาะสม และมี Valuation P/E อยูที่ 12.2 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจมากแล้ว
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรินิตี้ กล่าวถึงภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมา (6 ม.ค.) โดยระบุว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งในแดนบวก และแดนลบ ซึ่งภาพรวมการเคลื่อนไหวของดัชนีฯ ในเช้าวันนี้ส่วนหนึ่งยังมีผลมาจากปัจจัยลบในช่วง 2 วันที่ผ่านมา อย่างเช่นปัจจัยเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีนที่ยังมีการชะลอตัวต่อเนื่อง ปัจจัยความขัดแย้งระหว่างซาอุดีอาระเบีย และอิหร่าน รวมถึงปัจจัยกดดันภายในประเทศในกลุ่มหุ้นสื่อสาร เกี่ยวกับเรื่องการแข่งขันทางธุรกิจ
“ปัจจัยดังกล่าวทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงไปต่ำกว่าที่ระดับแนวรับ 1,250 จุด แต่เมื่อดัชนีลงไปต่ำกว่าระดับดังกล่าวแล้วนั้นจะเห็นว่ามีแรงซื้อกลับเข้ามา ซึ่งทาง บล.ทรินิตี้ มองว่าระดับแนวรับที่ 1,240-1,250 จุด เป็นระดับที่นักลงทุนน่าจะทยอยซื้อสะสมได้แล้ว”
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าที่ผ่านมา มีตลาดหุ้นในบางประเทศที่เป็นบวก อย่างเช่น จีน ที่ได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวเรื่องรัฐบาลจีนจะเข้าทำการแทรกแซงตลาดหุ้นจีน และมีตลาดหุ้นในบางประเทศเป็นลบในช่วงเช้านี้
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,250.90 จุด ลดลง 2.44 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.19% มูลค่าการซื้อขาย 21,306.13 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้คาดว่า ดัชนีฯ จะแกว่งตัวไซด์เวย์ เนื่องจากยังไร้ปัจจัยใหม่ โดยแนะนำนักลงทุนให้ทยอยซื้อสะสมในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับดัชนีฯ อยู่ในระดับที่เหมาะสม และมี Valuation P/E อยู่ที่ 12.2 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจมากแล้ว โดยแนะนำซื้อหุ้นที่ให้ปันผลสูงอย่างเช่น หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หุ้นในกลุ่มการเงิน และหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น พร้อมให้แนวรับ 1,240 จุด แนวต้าน 1,265 จุด
