จาร์เค็นฯ เผยเทรนด์ออกแบบปี 59 ลูกค้าพม่าสนใจสไตล์โมเดิร์นลักชัวรีมากขึ้น ทั้งเตรียมขยายฐานตลาดครอบคลุม AEC โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV พร้อมนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หวังสร้างการรับรู้แบรนด์-บริการงานด้านดีไซน์ครบวงจร แย้มวันที่ 6-8 ตุลาคม 2559 ร่วมออกบูทงาน “บิลด์ แอนด์ เดคคอร์” ณ เมียนมาร์ อีเวนท์ พาร์ค (MEP) ตั้งเป้า 30 ล้านบาท มั่นใจยอดขายทั้งกลุ่มปีนี้แตะ 400 ล้านบาท คาดปี 59 เพิ่มเป็น 450 ล้านบาท
น.ส.สิริทร สิทธิวัฒนาวงศ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท จาร์เค็น จำกัด เปิดเผยถึงเทรนด์การออกแบบตกแต่งในปี 2559 ว่า มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ผู้บริโภคจะชื่นชอบการออกแบบในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก แต่ปัจจุบันหันมาสนใจการออกแบบสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี และเพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้ บริษัทฯ จึงมีแผนที่จะขยายตลาดเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมตลาด AEC โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม) รวมไปถึงเตรียมความพร้อมนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อขยายการลงทุนให้รองรับการให้บริการด้านงานดีไซน์อย่างครบวงจร
สำหรับการขยายฐานไปตลาดต่างประเทศนั้น ในช่วงระหว่างวันที่ 6-8 ตุลาคม 2559 บริษัทฯ มีแผนไปร่วมออกบูทในงาน “บิลด์ แอนด์ เดคคอร์” ณ เมียนมาร์ อีเวนท์ พาร์ค (MEP) นครย่างกุ้ง ประเทศพม่า ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งเป็นการรวมผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และศูนย์การค้า รวมถึงนักลงทุนชาวพม่า ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น เป็นการเปิดตลาดใหม่ๆ ให้ชาวพม่าได้รู้จัก จาร์เค็น ในการนำเสนองานออกแบบที่ล้ำสมัยออกสู่สายตาชาวพม่า ซึ่งที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีมาก และได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างสูง เนื่องจากในตลาดพม่าเองยังไม่มีบริษัทออกแบบระดับสากลที่ให้บริการอย่างครบวงจรมาก่อน โดยงาน “บิลด์ แอนด์ เดคคอร์” ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถปิดการขายจากชาวพม่า โดยมูลค่าการขายอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาท
“การที่กลุ่มลูกค้าในพม่าให้ความสนใจผลงานของจาร์เค็น เพราะในประเทศพม่า กลุ่มแรงงานยังขาดประสบการณ์ด้านงานฝีมือทั้งในด้านการก่อสร้าง และตกแต่งภายใน ขณะที่ประเทศไทยมีแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญ และฝีมือประณีต อีกทั้งจาร์เค็นเองยังมีจุดแข็งในด้านของการให้บริการที่ครบวงจร ที่ผ่านมา งานที่บริษัทฯ ได้มาจะเป็นงานออกแบบ และตกแต่งภายในบ้านพักอาศัย และคอนโดฯ ซึ่งการที่ลูกค้าชาวพม่าหันมาสนใจการออกแบบสไตล์โมเดิร์นลักชัวรีมากขึ้นนั้น เพราะเริ่มเปิดรับอิทธิพลจากตะวันตกมากขึ้น อีกทั้งเป็นกลุ่มที่มีการศึกษาสูง ทำให้มีไลฟ์สไตล์ และความต้องการที่เปลี่ยนไป คาดว่าในงาน “บิลด์ แอนด์ เดคคอร์” บริษัทฯ จะสามารถปิดยอดขายได้ประมาณ 30 ล้านบาท” น.ส.สิริทร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปี 2558 คาดว่า ทั้งกลุ่มจาร์เค็นฯ จะมียอดขายรวมอยู่ที่ 400 ล้านบาท และในปี 2559 ทั้งกลุ่มจะมีรายได้รวม 450 ล้านบาท แบ่งยอดขายจากต่างประเทศ 20% และในประเทศ 80%