สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษบุคคล 3 ราย ได้แก่ 1.นายสายเพชร ทองเงา 2.น.ส.สุรีรัตน์ อาจปักษา และ 3.นายวรพล หมื่นบวร กรณีร่วมกันประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.)
ก.ล.ต.ได้รับแจ้งเบาะแส และตรวจสอบพบว่า บุคคลทั้งสามประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่มีใบอนุญาตตามกฎหมาย โดยได้ร่วมกันจัดการเงินทุนให้แก่บุคคลอื่นเพื่อแสวงหาประโยชน์จากสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ผ่านการชักชวน และให้ผู้ที่ต้องการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารของบริษัทหลักทรัพย์ 2 แห่ง เพื่อบัญชีซื้อขายสัญญาฯ ของ น.ส.สุรีรัตน์
การกระทำข้างต้นเป็นความผิดตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ.2546 มีโทษตามมาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกันคือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน ก.ล.ต.จึงได้กล่าวโทษบุคคลทั้งสามต่อ ปอศ.เพื่อดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังขอให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบุคคลกลุ่มนี้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมไปยัง ปอศ.ที่โทรศัพท์ 0-2237-1199 เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ ก.ล.ต.ได้เตือนให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการตรวจสอบ ผู้ชักชวนให้ไปลงทุนในหลักทรัพย์ หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าว่าได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบัน ก.ล.ต.พบว่า มีกลเม็ดการหลอกลวงที่หลากหลาย โดยมักมีการอ้างถึงผลตอบแทนว่ามีความแน่นอน และอยู่ในอัตราที่สูงกว่าการลงทุนปกติทั่วไป มีการรับประกันเงินลงทุน และยังพบว่ามีกรณีที่แอบอ้างว่าเป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกกฎหมาย หรืออ้างว่าเป็นเครือข่ายของบริษัทต่างประเทศจึงไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ก.ล.ต.ได้รับแจ้งเบาะแส และตรวจสอบพบว่า บุคคลทั้งสามประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่มีใบอนุญาตตามกฎหมาย โดยได้ร่วมกันจัดการเงินทุนให้แก่บุคคลอื่นเพื่อแสวงหาประโยชน์จากสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ผ่านการชักชวน และให้ผู้ที่ต้องการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารของบริษัทหลักทรัพย์ 2 แห่ง เพื่อบัญชีซื้อขายสัญญาฯ ของ น.ส.สุรีรัตน์
การกระทำข้างต้นเป็นความผิดตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ.2546 มีโทษตามมาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกันคือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน ก.ล.ต.จึงได้กล่าวโทษบุคคลทั้งสามต่อ ปอศ.เพื่อดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังขอให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบุคคลกลุ่มนี้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมไปยัง ปอศ.ที่โทรศัพท์ 0-2237-1199 เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ ก.ล.ต.ได้เตือนให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการตรวจสอบ ผู้ชักชวนให้ไปลงทุนในหลักทรัพย์ หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าว่าได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบัน ก.ล.ต.พบว่า มีกลเม็ดการหลอกลวงที่หลากหลาย โดยมักมีการอ้างถึงผลตอบแทนว่ามีความแน่นอน และอยู่ในอัตราที่สูงกว่าการลงทุนปกติทั่วไป มีการรับประกันเงินลงทุน และยังพบว่ามีกรณีที่แอบอ้างว่าเป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกกฎหมาย หรืออ้างว่าเป็นเครือข่ายของบริษัทต่างประเทศจึงไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด