ลิซ อิท แจ้งผลไตรมาส 3/58 กำไรสุทธิ 18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 14.3 ล้านบาท “สมพล เอกธีรจิตต์” มั่นใจปี 58 รายได้-กำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ พอร์ตสินเชื่อคงค้างทะลุเป้า 1,150 ล้านบาท หลังเดินหน้าบุกตลาดภาคเอกชน ปล่อยกู้นอกกลุ่มไอทีมากขึ้น ตอบสนองความต้องการลูกค้าเอสเอ็มอีที่มีความต้องการสินเชื่อมากขึ้น อานิสงส์รัฐเดินหน้าเบิกจ่ายงบลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตอกย้ำ “ลีซ อิท” ไม่ใช่แค่ “ลีซ ไอที”
นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) หรือ LIT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/58 บริษัทมีรายได้รวม 51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 53.6 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 33.2 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.9% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 14.3 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้รวม 139.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 51.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 92 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 50.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 47.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ
“พอร์ตสินเชื่อในไตรมาส 3/58 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ โดยหันมาปล่อยสินเชื่อนอกเหนือกลุ่มไอทีมากขึ้น ตอกย้ำ “ลีซ อิท” ไม่ใช่แค่ “ลีซ ไอที” และเพิ่มสัดส่วนลูกหนี้ภาคเอกชนมากขึ้น ส่วนแนวโน้มในไตรมาส 4/58 คาดว่าสินเชื่อจะโตต่อเนื่อง เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีมีความต้องการสินเชื่อเพิ่มมากขึ้นจากการรับงานของภาครัฐ ทำให้มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ กำไร และพอร์ตสินเชื่อในปีนี้ของ LIT จะเติบโตสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ก่อนหน้าที่คาดว่าจะเติบโต 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และถือว่าทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท” นายสมพล กล่าว
ก่อนหน้านี้ LIT ตั้งเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อคงค้างในปี 2558 อยู่ที่ 1,150 ล้านบาท หรือเติบโต 30% จากปีก่อน โดยปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 1,162 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังตั้งเป้าหมายคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ไม่ให้เกิน 2% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่อยู่ประมาณ 3-5%
“ถึงแม้ว่าในไตรมาสนี้จะเห็นว่ามีหนี้คงค้างเกินกำหนดชำระสูงขึ้นบ้าง ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้ที่มีการยืดการจ่ายชำระนานขึ้นบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่ถือว่าเป็นปัญหาให้เกิดภาวะหนี้เสีย เป็นเพียงภาวะหนี้อึดอัดเท่านั้น บริษัทก็มีการตั้งวงเงินสำรองไว้สำหรับเอ็นพีแอลที่ระดับ 2.3% ของพอร์ตสินเชื่อคงค้างมนปีนี้ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอ” นายสมพล กล่าว
ล่าสุด LIT ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ เลตเตอร์ออฟเครดิต (Letter of Credit ) หรือ L/C ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของ LIT ที่จะมาเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี เชื่อว่าบริการสินเชื่อเพื่อเปิด L/C เป็นบริการที่จะสร้างรายได้ให้แก่ LIT และจะช่วยเสริมให้พอร์ตสินเชื่อค้ำประกันของบริษัทเติบโตขึ้น และยังให้บริการสินเชื่อเพื่อค้ำประกันซองประมูลอิเล็กทรอนิกส์ (E-bidding) สอดคล้องต่อนโยบายของภาครัฐที่กำหนดให้เริ่มการประมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์ในการจัดซื้อจัดจ้าง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมาด้วย LIT ถือเป็นแหล่งเงินทุนทางเลือกนอกภาคสถาบันการเงิน (Non Bank) ปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้าเอสเอ็มอีได้อย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ หรือตั้งแต่ต้นจนจบโครงการ เริ่มตั้งแต่จัดหาหนังสือค้ำประกันซอง (BID BOND) และสินเชื่อเพื่อเปิด L/C บริการจัดหาสินค้า (TRADE FINANCE) สินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการ (PROJECT BACKUP FINANCING) สินเชื่อสัญญาเช่าทางการเงิน เช่าซื้อ (LEASING & HIRE PURCHASE) สินเชื่อการรับโอนสิทธิเรียกร้อง (FACTORING)