xs
xsm
sm
md
lg

DELTA คาดเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ดันรายได้ปีหน้าพุ่ง ปรับกลยุทธ์เน้นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการ บมจ. เดลต้า อิเลคโทรนิคส์  หรือ DELTA
DELTA คาดรายได้ปีหน้าเติบโตอย่ามีนัยสำคัญจากการเน้นผลิตสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง เผยทุ่มงบลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท เตรียมก่อสร้างโรงงานที่อินเดียคาดได้ข้อสรุปปีหน้า
  
นายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการ บมจ.เดลต้า อิเลคโทรนิคส์ หรือ DELTA กล่าวว่า บริษัทประมาณการกำไรสุทธิในปีนี้ และปีหน้าคาดว่าจะมียอดรายได้ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จากปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิสูงสุดอยู่ที่ 5,960 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลักของการเติบโตขึ้นของกำไรนั้นส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทฯ ได้มีการกระจายสินค้าในหลากผลิตภัณฑ์ อีกทั้งมีการวางสินค้า และความแตกต่างของช่วงราคาโปรโมชันเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความหลายหลายแตกต่างกัน เนื่องจากในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา มีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้บริษัทเลือกที่จะกระจายความเสี่ยงเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้เน้นในการปรับปรุง และพัฒนาสินค้า และเน้นสินค้าที่เป็นพรีเมียมมากขึ้นเนื่องจากเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ทำให้ระดับอัตรากำไรสุทธิมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทคาดว่าอัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะมากกว่าปีที่แล้ว 13.5% โดยหลัง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 14.18%

“แนวโน้มการเติบโตในส่วนของกำไรในอนาคตทั้งในปลายไตรมาสที่ 4 นี้ และในปีหน้าคาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากการกระจายตัวของสินค้าในตลาดที่หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยเน้นกลุ่มสินค้าที่เป็นคอนซูเมอร์ อินดัสตรี และอุตสาหกรรมยานยนต์ ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4 คาดว่า ผลการดำเนินงานจะดีกว่าไตรมาส 3 เนื่องจากปัญหาด้านเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งพิจารณาจากยอดขายยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง”


อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแผนการลงทุนสร้างศูนย์วิจัยแห่งใหม่ที่เมืองบังกาลอร์ และการสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ในเมืองทมิฬนาดู ประเทศอินเดีย ขณะนี้อยู่ในช่วงของการเจรจาเงื่อนไข และข้อตกลงกับทางรัฐบาลอินเดีย โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 1 ปีหน้า อย่างไรก็ตาม บริษัทประมาณการเงินลงทุนจากทั้ง 2 โครงการดังกล่าวนี้ไว้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะใช้เงินลงทุนส่วนหนึ่งจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ ที่มีอยู่ประมาณ 18,000 ล้านบาท ซึ่งหากไม่พออาจขอกู้จากสถาบันการเงินอินเดีย โดยจะพิจารณาจากช่วงเวลาที่เงินรูปีอ่อนค่าลง 



“แนวโน้มตลาดในประเทศอินเดียมีแนวโน้มที่จะโอกาสขยายตัวสูง และตลาดสินค้าพรีเมียมยังสามารถเติบโตได้อีก โดยในอนาคตบริษัทมองว่าตลาดอินเดียจะเป็นศูนย์กลางที่ช่วยกระจายสินค้าออกไปยุโรป และแอฟริกาได้ เนื่องจากทางรัฐบาลอินเดียได้ให้การสนับสนุน และส่งเสริมการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแตกต่างกับฐานการผลิตในประเทศแถบยุโรป เพราะอัตราภาษีที่สูงมาก ทั้งนี้ ในปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากประเทศอินเดียอยู่ที่ 5% หากการลงทุนที่อินเดียคืบหน้าก็จะทำให้สัดส่วนเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แต่บริษัทยังคงเน้นตลาดใหญ่ในกลุ่มประเทศยุโรปอยู่ โดยมีสัดส่วนรายได้มากถึง 50%”

กำลังโหลดความคิดเห็น