“สรรพสามิต” แจงผลปิดโครงการ “รถคันแรก” เตรียมไล่บี้ตามเงินภาษีคืนจากผู้ทำผิดเงื่อนไข 6,470 ราย คิดเป็นจำนวนเงิน 418 ล้านบาท “บัญชีกลาง” เดินหน้าฟ้องอีก 399 ราย คิดเป็นเงิน 22 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีผู้นำเงินมาคืนเพื่อยกเลิกการใช้สิทธิ จำนวน 5.23 พันราย เป็นเงิน 259 ล้านบาท
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ กรมสรรพสามิตเปิดเผยว่า โครงการรถคันแรกได้ปิดโครงการตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.2558 ตามที่ขอมติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยผู้ที่จองรถยนต์แต่ไม่ยื่นใช้สิทธิภายในวันที่ 30 ก.ย.2558 ที่ผ่านมาก็ถือว่าสละสิทธิ โดยตั้งแต่เริ่มโครงการมามีผู้ขอใช้สิทธิ จำนวน 1.25 ล้านราย คิดเป็นเงินภาษี 9.28 หมื่นล้านบาท แต่มีผู้อยู่ในฐานะได้รับสิทธิจากโครงการดังกล่าว 1.12 ล้านราย เป็นเงินภาษีที่ต้องคืน 8.25 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ การคืนเงินภาษีให้แก่ผู้ที่ได้สิทธิตามโครงการนั้นได้ดำเนินการไปแล้ว 1.1 ล้านราย เป็นเงิน 8.11 หมื่นล้านบาท ยังคงเหลือเงินที่ต้องจ่ายในปีงบประมาณ 2559 อีก 366 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน กรมสรรพสามิตได้มีการติดตามเรียกเงินคืนจากผู้ที่ทำผิดเงื่อนไข จำนวน 6.47 พันล้านบาท เป็นเงิน 418 ล้านบาท ในจำนวนนี้มี 6.08 พันราย ได้นำเงินมาคืนตามที่กระทรวงการคลังทำหนังสือทวงคืนเป็นเงิน 395 ล้านบาท แต่มีผู้ขอผ่อนส่ง จำนวน 50 ราย ซึ่งสามารถผ่อนตามเงื่อนไขที่กำหนด
สำหรับผู้ทำผิดเงื่อนไขที่เหลือนั้น ทางกรมบัญชีกลางได้ทำเรื่องฟ้อง 399 ราย เป็นเงิน 22 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีผู้นำเงินมาคืนเพื่อยกเลิกการใช้สิทธิ จำนวน 5.23 พันราย เป็นเงิน 259 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี การเก็บรายได้ของกรมในปีงบประมาณ 2558 ที่ผ่านมา เก็บรายได้สุทธิ 4.39 แสนล้านบาท เกินเป้าหมาย 1.84 หมื่นล้านบาท หรือ 4.37% เป็นการเก็บภาษีน้ำมันได้เกินเป้าหมาย 6.22 หมื่นล้านบาท แต่การเก็บภาษีรถยนต์ต่ำกว่าเป้าหมาย 2.67 หมื่นล้านบาท ภาษีเบียร์ต่ำกว่าเป้าหมาย 7.75 พันล้านบาท และภาษีสุราต่ำกว่าเป้าหมาย 9.5 พันล้านบาท