ก.ล.ต. กล่าวโทษนางสาวเพ็ญแข เกตุแก้ว และนางสาวทัน เลถิ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีร่วมกันแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้อันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ บมจ.บลิส-เทล
ก.ล.ต. ตรวจสอบพบว่า นางสาวเพ็ญแข และนางสาวทัน ซึ่งขณะเกิดเหตุมีตำแหน่งเป็นกรรมการการลงทุนของ บมจ.บลิส-เทล หรือ BLISS มีอำนาจตัดสินใจ และอนุมัติการลงทุนในหลักทรัพย์แทนบริษัท ได้ร่วมกันแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่ BLISS โดยตัดสินใจหรือดำเนินการให้มีการนำทรัพย์สินของ BLISS ไปลงทุนในใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CIG-W1) ในปี 2553 เพื่อเอื้อประโยชน์ให้บุคคลภายนอก อันทำให้ BLISS ขาดทุนเป็นเงิน 17.4 ล้านบาท จากการลงทุนในช่วงที่ CIG-W1 ใกล้หมดอายุการใช้สิทธิและมีราคาต้นทุนสูง และขายหลักทรัพย์ดังกล่าวทั้งหมดออกไปในช่วงราคาต่ำ
การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 311 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษนางสาวเพ็ญแข และนางสาวทันต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งตลอดระยะเวลาการกล่าวโทษดำเนินคดี บุคคลทั้งสองจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรในตลาดทุน และไม่สามารถเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนได้
อย่างไรก็ดี การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่า บุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจในการตัดสินคดีของศาลยุติธรรมตามลำดับ