ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี อวดผลงานครึ่งปีแรกลดลงเหลือ 1,197.91 ล้านบาท เหตุอุตสาหกรรมก่อสร้างทั้งในรัฐ เอกชนชะลอตัวตามเศรษฐกิจที่ยังคงซบเซา ด้าน “อาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม” คาดผลประกอบการของ CCP ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ยันจะพยายามรักษารายได้ในปีนี้ให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อนที่เคยมี 2,662 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิอาจอยู่ในระดับต่ำกว่าที่เคยทำไว้ได้ 155 ล้านบาท จากภาวะแข่งขันที่รุนแรงในวงการวัสดุก่อสร้างท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ขณะเดียวกัน ได้ปรับกลยุทธ์ศึกษาแนวทางลดต้นทุนผ่านช่องทางด้านการจัดจำหน่าย และด้านต้นทุนวัตถุดิบให้พร้อมรองรับการรับงานก่อสร้างภารัฐฯ ที่กำลังจะกลับมาในปี 59
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการบริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP ได้กล่าวถึงภาพรวมผลประกอบการในครึ่งแรกของปี 2558 ว่า แม้ในปัจจุบันตลาดวัสดุก่อสร้างในประเทศกำลังชะลอตัวลง แต่ CCP ได้เตรียมวางแผนงานล่วงหน้าเพื่อรองรับการกลับมาฟื้นตัวของตลาดซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนเพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในอนาคตไปแล้วกว่า 200 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนขยายแท่นผลิตพรีคาสต์เพิ่ม 3 แท่น ซึ่งจะทำให้แท่นผลิตพรีคาสต์ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 15 แท่น จากเดิมเคยมีอยู่ 12 แท่น โดยจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 25%
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายแพลนต์คอนกรีตผสมเสร็จเพิ่มอีก 2 จุด จากของเดิมที่มี 15 จุด ซึ่งจะทำให้สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในโซนหนองใหญ่ นิคมอุตสาหกรรมในเขต อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี รวมถึงนิคมสร้างตนเอง จ.ระยอง อีกทั้งบริษัทยังได้ลงทุนเพื่อซื้อที่ดินสำหรับขุดบ่อทรายเพื่อใช้เป็นแหล่งวัตถุดิบ และลดต้นทุนทางด้านราคา รวมถึงปัญหาค่าขนส่งเป็นจำนวนกว่า 100 ไร่
ด้านผลประกอบการ CCP ช่วงครึ่งแรกของปี 2558 นั้นปรับตัวลดลง โดยรายได้รวมของบริษัทจะอยู่ที่ 1,197.91 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 184.57 ล้านบาท กำไรสุทธิในรอบ 6 เดือนแรกของปีนี้จะอยู่ที่ 22.16 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นผลจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้างทั้งภาครัฐ และเอกชนหลังจากที่เศรษฐกิจยังคงซบเซา
อย่างไรก็ตาม CCP ยืนยันว่าจะพยายามรักษาอัตราการเติบโตของรายได้ปี 2558 ให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อนที่เคยทำได้ 2,662.56 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิของปีนี้นั้นอาจจะอยู่ในระดับต่ำกว่าที่เคยทำไว้ได้ 155.24 ล้านบาท เนื่องจากในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว และโครงการก่อสร้างก็มีให้เลือกได้ไม่มากนัก จึงทำให้การแข่งขันกันเองระหว่างผู้ประกอบการภายในอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างนั้นมีความรุนแรงมากขึ้น และแม้ปีที่ผ่านมา CCP จะสามารถรับงานใหม่เข้ามาได้เป็นจำนวนมากก็ตาม แต่ราคาที่ได้กลับไม่ค่อยจะดี ซึ่งจะมีผลทำให้งานส่วนใหญ่จะมีอัตรากำไรที่ลดลง โดยผู้บริหาร CCP มองภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างว่าจะกลับมาคึกคักมากขึ้น เนื่องจากภาครัฐเร่งให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการลงทุนต่างๆ เช่น โครงการลงทุน โครงการปรับถนน โครงการวางท่อระบายน้ำ โดยจะเห็นได้จากปริมาณงาน (Backlog) ที่เพิ่มสูงขึ้น และถ้าพิจารณาจากปริมาณงานที่กำลังเสนอราคากันอยู่ก็คาดว่าน่าจะเพิ่มปริมาณงานได้อีก ทั้งนี้ ในปัจจุบัน Backlog ของ CCP มีอยู่ประมาณ 2,300 ล้านบาท