เมื่อวานนี้ครูไก่ได้พูดึงหลักการออมเงินสำหรับผู้ที่ต้องการจะเป็นฟูลไทม์เทรดเดอร์ วันนี้จะมาเล่าต่อถึงการจัดพอร์ตลงทุนและการตั้งเป้าผลตอบแทนที่จะต้องทำได้ต่อเดือน
2) เงินเริ่มต้นสำหรับพอร์ตที่ใช้เพื่อการเทรดเพื่อเป็นฟูลไทม์เทรดเดอร์ ถ้าสำหรับคนที่มีเงินเริ่มต้น เพียงแค่ 100,000 บาท กับ เงินเริ่มต้น 1,000,000 บาท ในการจะสร้างกระแสเงินสดเพื่อการดำรงชีวิต มันมีความยากที่แตกต่างกันอย่างมาก
ยกตัวอย่าง เรามีค่าเฉลี่ยมาตรฐานในการทำกำไรต่อเดือน เท่ากับ 10 % ถ้าเรามีเงินต้นในการเทรด 100,000 บาท เราจะได้ กระแสเงินต่อเดือนที่เข้ามา 10,000 บาท ซึ่งจะเท่ากับ รายจ่ายปกติต่อเดือน พอดี แต่ ถ้าเงินต้น 1,000,000 บาท เราจะสามารถสร้างกระแสเงินสดต่อเดือนได้ ถึง 100,000 บาท ซึ่งจะทำให้มีเงินออมหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว สำหรับเป็นเงินออมเพื่อความมั่นคงและปลอดภัยในระยะที่สองสู่การเป็น Fulltime trader
3 ) ความสามารถในการทำกำไรต่อเดือน ก่อนที่จะออกมาเป็นฟูลไทม์เทรดเดอร์ออกมาจากงานประจำ เราควรประเมินตัวเราเองก่อนว่า ความสามารถสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่องจากการลงทุน โดยเฉลี่ยได้กี่% ต่อเดือน สำหรับคนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ ต่ำกว่า 10 % ต่อเดือน แนะนำว่าให้เรียนรู้และฝึกฝนการเทรดจนสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องจนให้ได้มากกว่า 10% ต่อเดือนเป็นระยะอย่างน้อย 2 ปี ติดต่อกัน ถ้าเมื่อใดเราสามารถทำผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง มันจะสามารถสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยในการเปลี่ยนอาชีพเป็นฟูลไทม์เทรดเดอร์ได้มากยิ่งขึ้น
ดังนั้น ในการที่จะเป็นฟูลไทม์เทรดเดอร์ คุณต้องเตรียมวางแผนเงินออมในระยะช่วงสะสมเงินก่อนการเปลี่ยนแปลดังนี้
เงินออมในระยะช่วงสะสมการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด = เงินออมสำหรับระยะสะสมเงินก่อนการเปลี่ยนแปลง + เงินเริ่มต้นสำหรับพอรต์ที่ใช้เพื่อการเทรด
โดยที่มีความสามารถในการทำกำไรขั้นต่ำต่อเดือน = 10%
ถ้าคุณยังทำไม่ได้ตามเช่นนี้ โปรดพิจารณาและไตร่ตรองอย่างมาก เพราะคุณกำลังทำให้ตัวเองเกินความไม่มั่นคงและปลอดภัยในเส้นทางของตั้งแต่ก้าวแรกของการวางแผนสู่ฟูลไทม์เทรดเดอร์
ครูไก่ กนิษฐา รอดดำ หัวหน้าโค้ชทีมฟีนิกซ์
ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.supertrader.co.th
SuperTrader รายการเรียลิตีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เข้มข้นด้วยความรู้จากโค้ชผู้มากประสบการณ์ ผ่านบททดสอบจากตลาดหุ้นจริง