“รวงข้าว” คาดเงินสะพัดวันแม่ 2.7 พันล้าน เติบโต 2.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ศูนย์วิจัยกสิกรฯ เผยผลสำรวจพฤติกรรมคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลวันแม่ปีนี้ คาดมีเงินสะพัด 2.7 พันล้านบาท เติบโต 2.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ชี้กิจกรรมยอดนิยมอันดับแรกพาแม่ไปรับประทานอาหารนอกบ้าน สำหรับเทรนด์ที่น่าสนใจในช่วงเทศกาลวันแม่ปีนี้ คือ คนกรุงมีแนวโน้มชักชวนคุณแม่ออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพมากขึ้น รวมถึงใช้โซเชียล เน็ตเวิร์ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องต่อการสื่อสารในการพูดคุย และบอกรักคุณแม่

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สำรวจพฤติกรรมคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลวันแม่ปี 2558 ลักษณะสำรวจเชิงคุณภาพ ระหว่างวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 ถึงวันที่ 3 สิงหาคม 2558 จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนกรุงเทพฯ หรือคนต่างจังหวัดที่เข้ามาศึกษา หรือทำงานในกรุงเทพฯ จำนวน 407 คน ครอบคลุมทุกสาขาอาชีพหลัก ช่วงอายุ และระดับรายได้ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 54.5 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดมีแผนประกอบกิจกรรมในช่วงเทศกาลวันแม่ปี 2558 โดยกิจกรรมยอดนิยมในช่วงเทศกาลวันแม่ปีนี้คนกรุงเทพฯ เลือกรับประทานอาหารร่วมกับคุณแม่มากเป็นอันดับ 1 รองลงมา เป็นการมอบพวงมาลัย หรือดอกไม้ให้คุณแม่ การซื้อของขวัญให้คุณแม่ และการพาคุณแม่ท่องเที่ยว ตามลำดับ

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประมาณการว่า เม็ดเงินค่าใช้จ่ายในการประกอบกิจกรรมต่างๆ ของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลวันแม่ปีนี้น่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ 2,700 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 2.7 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 โดยเป็นการเติบโตที่ชะลอตัวลงจากปีก่อนหน้า เนื่องจากเม็ดเงินจากการพาคุณแม่ท่องเที่ยวลดลง แต่เม็ดเงินจากการประกอบกิจกรรมอื่นๆ ยังคงขยายตัว จึงส่งผลให้ภาพรวมของเม็ดเงินค่าใช้จ่ายในการประกอบกิจกรรมต่างๆ ของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลวันแม่ปีนี้ยังขยายตัว

สำหรับเทรนด์ที่น่าสนใจในช่วงเทศกาลวันแม่ปีนี้ คือ คนกรุงเทพฯ มีแนวโน้มชักชวนคุณแม่ออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพมากขึ้น รวมถึงใช้โซเชียล เน็ตเวิร์ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องต่อการสื่อสารในการพูดคุย และบอกรักคุณแม่