ASTVผู้จัดการรายวัน - นับถอยหลังโครงการ Super Trader Thailand Season 2 เริ่มเดินเครื่อง 21 กรกฎาคมนี้ ผู้ร่วมจัดตั้งโครงการมั่นใจช่วยยกระดับนักลงทุนไทยเทียบชั้นสากล จากข้อมูลความรู้ และมุมมองการเทรดที่ถ่ายทอดให้แก่ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อก้าวข้ามคำว่า “เล่นหุ้นก็เหมือนเล่นพนัน”
แม้ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาจะผันผวน ทั้งจากปัจจัยลบภายใน และนอกประเทศ จนทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนออกไป ซึ่งมีผลต่อมูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้น แต่ในวงการตลาดหุ้นยังมีอีกหลายเรื่องราวที่ถูกจับตา และกำลังเป็นที่สนใจ เช่น โครงการ Super Trader Thailand Season 2 ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นโครงการที่ตอบโจทย์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ต้องการพัฒนานักลงทุนไทยรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพเข้ามาลงทุนในตลาด เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนรู้จักประโยชน์จากลงทุนผ่านหุ้นมากขึ้น โดยปรากฏการณ์ดังกล่าวกำลังได้รับการจับตาจากนักลงทุนรายเดิม และนักลงทุนรายใหม่ที่เริ่มสนใจเข้ามาลงทุน หลังการแข่งขันในครั้งแรกประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
“กระทรวง จารุศิระ” หรือ “ซัน” ผู้ชนะแฟนพันธุ์แท้ตลาดหุ้นไทยปี 2013 และเป็นผู้ริเริ่มโครงการฯ กล่าวถึงการเดินหน้าโครงการ Super Trader Thailand Season 2 ว่า หลักสำคัญที่สุดที่จะทำให้เป็น Trader ที่ดีคือ นักลงทุนรุ่นใหม่เป็นนักลงทุนที่ใจร้อน อยากรวยเร็ว แต่การที่ใจร้อนเกินไป กระโดดเข้ามาในตลาดหุ้นนั้นน่าจะเจ๊งมากกว่ารวย ดังนั้น โครงการ Super trader จึงมีปณิธานที่จะสอนให้นักลงทุนทั้งรุ่นใหม่ และรุ่นเก่าให้มีความรู้ความเข้าใจทั้งในเชิงพื้นฐานหรือ Fundamental และในเชิงการอ่านกราฟ หรือ Technical รวมทั้งเข้าใจเรื่องของ จิตวิทยามวลชน เพื่อที่จะสามารถอยู่รอดได้ในตลาดหุ้นที่ผันผวนได้
“ที่สำคัญที่สุดคือ การเข้าใจตนเอง มนุษย์มีความแตกต่างกัน ดังนั้น ความคิดของแต่ละคนคนย่อมไม่เหมือนกัน เราจะต้องทนรวย ไม่ทนจน ซึ่งสำคัญมากในการอยู่รอด เพราะอาชีพ Trader ในมุมมองของคนรุ่นเก่ามองว่าเป็นการเล่นการพนันอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เลย Trader จริงๆ คือคนที่ต้องทำงานหนัก อ่านงบ อ่านกราฟ ของบริษัททุกตัวในตลาดหลักทรัพย์ จำเป็นต้องทุ่มเททั้งเวลา และความตั้งใจมากๆ ... ส่วนตัวผมอยากพัฒนาวงการ Trader อย่างจริงจัง ให้สามารถทัดเทียมกับวงการ Trader ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ รัสเซีย หรือฮ่องกง”
“ซัน” ให้เหตุผลเพิ่มเติมของการสานความสำเร็จโครงการดังกล่าวให้ต่อเนื่องว่า สงครามยุคนี้เป็นสงครามเศรษฐกิจ ที่ผู้บริหารกองทุนใหญ่ๆ สามารถมีอิทธิพลต่อดัชนีราคาหุ้นเพียงแค่การคลิกเมาส์ส่งคำสั่งขาย ก็อาจทำให้ราคาหุ้นตกไม่เป็นท่า ดังนั้น การที่จะอยู่ในเกมลงทุนแบบนี้ ถ้าเราเงินน้อยกว่า ความรู้ความเชี่ยวชาญน้อยกว่า ก็เหมือนกับสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสุภาษิตจีนจากที่เคยมีคนกล่าวไว้ว่า “รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” จะกลายเป็น “รบร้อยครั้ง แพ้ร้อยครั้ง”
“อีกกรณีที่ผมคิด คือ Trader เป็นอาชีพที่หาเงินง่ายมาก ดังนั้น อย่างน้อยเราก็จะคนมีอีกกลุ่มที่สามารถทำประโยชน์ทำเพื่อผู้ด้อยโอกาสกลุ่มอื่นๆ ที่เขาไม่ได้โชคดีเหมือนเราได้ นั่นเป็นสิ่งที่ผมอยากทำ ส่วนเทคนิคการเลือกคนเก่งๆ คนดีๆ เพื่อรวมตัวกัน สำหรับผมนั้นคือการคุยกันไปนานๆ ครับ แล้วเราจะรู้เองโดยธรรมชาติว่าคนไหนที่เคมีตรงกับเรา หรือไม่ตรงกับเรา เราจะรู้เอง หลักสำคัญที่สุดที่จะทำให้เป็น Trader ที่ดีคือ ชนะให้เป็น แพ้ให้เป็นครับ ของแบบนี้ฝึกฝนได้”
ด้าน “อัครพงศ์ ขวงธนะชัย” หรือ “แมน” อีกหนึ่งนักลงทุนคุณภาพที่ร่วมผลักดันโครงการฯ อีกทั้งเข้ามาเป็นหนึ่งในทีมสต๊าฟโค๊ซ (พี่เลี้ยง) ให้แก่ทีมที่เข้าแข่งขัน กล่าวว่า ในการแข่งขันSeason นี้ ส่วนตัวจะเน้นให้การอบรมในส่วนของกราฟเทคนิคเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากส่วนตัวมองว่า การดูกราฟเทคนิคเป็นจะทำให้เราสามารถสังเกตเห็นพฤติกรรมการขึ้นลงของราคาหุ้นออกมาเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ ดีกว่าจะไปคาดเดาตีความจากการฟังข่าวอย่างเดียว
“บางครั้งแม้ว่าจะมีข่าวดีออกมาแต่ถ้าหากกราฟราคายังไม่หักหัวขึ้น ก็แสดงให้เห็นว่า สุดท้ายราคาก็ยังไม่ได้กลับตัวขึ้นจริง ...อาชีพ trader ถ้ามองเพียงผิวเผินจะดูว่าเป็นอาชีพที่สบาย แค่เพียงซื้อมาขายไปให้ได้กำไร แต่ในความเป็นจริงแล้วกว่าที่เราจะสามารถเรียนรู้พฤติกรรมของราคา และสามารถเข้าซื้อได้ถูกจังหวะเพื่อไปขายในราคาที่เหมาะสมได้นี้ จุดนี้ต่างหากที่ผมมองว่าเป็นขั้นตอนยากที่สุดในการพัฒนาฝีมือตัวเองขึ้นมาเพื่อเป็น Trader มืออาชีพ”
ส่วนหลักสำคัญในการเป็น Trader ที่ดี ในมุมมอง “อัครพงศ์” คือ 1.เรียนรู้หลักการ และวิธีการในการที่จะทำกำไรให้ครบทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นการทำกำไร ด้วยการเล่นข่าวในด้านของปัจจัยพื้นฐาน การทำกำไรด้วยเทคนิคกราฟซึ่ง “แมน” มองว่า Trader ต้องศึกษาให้รู้ และเลือกให้เหมาะต่อสไตล์ของตัวเอง และ 2.เมื่อเลือกสไตล์การเทรดของตัวเองได้แล้วที่เหลือคือฝึกฝน อย่าล้มเลิกหรือเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เพราะทุกเทคนิคการเทรดจะมีข้อผิดพลาดอยู่แล้วซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ... “ตรงกันข้ามเราควรจะนำ ข้อผิดพลาดเหล่านั้นมาแก้ไขปรับปรุง และอุดจุดบอดลดความผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด”
สำหรับการแข่งขันโครงการ Super Trader Thailand Season 2 ทีมผู้จัดงานมองว่า เพื่อช่วยเติมเต็มให้การแข่งขันในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการเข้ามาเป็นนักลงทุนมากขึ้น ดังนั้น ในการแข่งขันครั้งนี้จะมีการดึงผู้ชนะจากโครงการแรกเข้ามาเป็นผู้ช่วยโค้ชให้แก่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งใหม่นี้ด้วย
พรชัย ตั้งจิรยาภรณ์ หรือ “บิ๊ก” นักลงทุนเลือดใหม่ที่ชนะในการแข่งขันครั้งที่1 ซึ่งใน Season นี้ได้ขยับขึ้นมาเป็นผู้ช่วยโค้ช กล่าวว่า ในฐานะที่ซีซัน 2 ผมได้เป็นผู้ช่วยโค้ช แนวทางที่ผมจะช่วยแนะนำผู้เข้าแข่งขันรุ่นที่ 2 อยากให้คนที่เข้าร่วมโครงการเปิดใจเข้ามา อย่าเกร็งต่อการแข่งขัน ปล่อยสมองให้โล่งเพื่อเตรียมรับสิ่งใหม่ๆ แล้วเก็บเอาแนวทาง และวิธีการของโค้ชแต่ละท่านกลับไปปรับใช้กับวิธีของตัวเอง เพราะสิ่งที่คนส่วนมากเป็นคือ เวลามาเรียนแล้วจะยิ่งอยากจะกลับไปเทรดตามสิ่งที่เรียนมาโดยไม่ได้นึกถึงความเหมาะสมของตัวเอง ท้ายที่สุดก็จะเกิดความเสียหาย
“อาชีพ Trader ผมคิดว่าเป็นอาชีพที่ใครหลายๆ คนอยากเป็น เพราะคิดว่า
สบายสามารถทำเงินได้ง่าย และรวยเร็ว แต่สุดท้ายคนที่คิดแบบนี้ต้องออกไปจากตลาดเป็นจำนวนมาก เพราะขาดความรู้ความเข้าใจก่อนที่จะเข้ามาลงทุน ...หลักสำคัญคือ Trader ต้องมีความอดทนในการฝึกฝนสิ่งที่ได้ความรู้มา แล้วนำมาลองปรับใช้เพื่อให้มันเหมาะสม นอกจากนี้ ต้องมีความขยันในการหาข้อมูล รวมถึงต้องทำการบ้านเพื่อเตรียมตัวในวันถัดไป ...พูดง่ายๆ เราต้องใส่ใจต่อสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เทรดอยู่ ทำมันให้เต็มที่ และที่สำคัญต้องมีระเบียบวินัย เมื่อเราเตรียมระบบเตรียมจุดซื้อจุดขายจุดทำกำไรครบหมดแล้ว เราจะต้องทำตามสิ่งที่เรากำหนดแล้วนำจุดผิดพลาดมาแก้ไขเพื่อให้มันดีขึ้น”
นอกจากนี้ “บิ๊ก” กล่าวย้ำเพิ่มเติมว่า นอกจากความรู้ความเข้าใจ และหลักเกณฑ์ที่ Trader ควรปฏิบัติ สิ่งสำคัญที่สุดของ Trader คือ “ใจ” เพราะการขาดทุนหรือกำไรในแต่ละครั้งนั้นจะทำให้จิตใจเราเริ่มหวั่นไหว หรือมีมุมมองด้านลบมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายแล้วถ้าใจไม่แข็งพอ กำไรที่ได้มากก็อาจหมดไป เพราะเราคิดแต่จะมุ่งเทรดให้มากขึ้น เพื่อทำกำไรให้มากขึ้น ทั้งที่ต้นทุนที่มีอยู่น้อยลง นั่นเพราะเราอยากได้ส่วนที่เสียไปกลับคืน... “จุดนี้ผมเองทำได้แล้ว และผมเชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้ จึงขอเป็นกำลังใจให้แก่ทุกคน”
ถือว่าเป็นอีกโครงการที่น่าติดตามของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้สนับสนุนรายอื่นๆ ที่จัดตั้งโครงการดังกล่าวขึ้นมา ส่วนรายละเอียด และเงื่อนไขพิเศษที่มีมากขึ้นในการแข่งขัน โครงการSuper Trader Thailand Season 2 จะเป็นอย่างไร ต้องติดตามวันอังคารที่ 21 กรกฎาคม 2558 เวลา 09.00-12.00 น. ณ ห้องโถงนิทรรศการ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมาร่วมลุ้นกันว่าใครจะเป็นผู้ชนะใน Season นี้ ซึ่งคาดกันว่าจะจบลงประมาณช่วงเดือนธันวาคม 2558 หรือในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2559