xs
xsm
sm
md
lg

แนะช่วงนี้ ควรเลือกลงทุนเป็นรายตัว เน้นหุ้นที่เห็นว่าราคาได้ถึง Bottom แล้ว และมีสัญญาณการฟื้นตัวของกำไร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หุ้นปิดลบ 6.34 จุด แต่ไม่หลุด 1,500 จุด วอลุ่มแผ่วแค่ 2.8 หมื่นล้าน คาดนักลงทุนรอ 2 ปัจจัยนอกชี้นำ แนะช่วงนี้ควรเลือกลงทุนเป็นรายตัวไป โดยเฉพาะตัวที่เห็นว่าราคาได้ถึง Bottom แล้ว และมีสัญญาณการฟื้นตัวของกำไร

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (15 มิ.ย.) ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,501.89 จุด ลดลง 6.34 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.42% มูลค่าการซื้อขาย 28,854.37 ล้านบาท โดยภาพรวมในวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ดัชนีแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,507.66 จุด ส่วนจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,496.76 จุด

ด้านสัดส่วนผู้ลงทุนแยกตามประเภทมี ดังนี้ นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 250.82 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 625.64 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 343.25 ล้านบาท นักลงทุนภายในประเทศ ซื้อสุทธิ 533.22 ล้านบาท

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซต์เวย์ โดยรอ 2 ประเด็นให้ชัดเจนก่อนในช่วงกลางสัปดาห์จะเป็นการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในประเด็นของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะมีการส่งสัญญาณอะไรออกมาหรือเปล่า และเรื่องกรีซ ที่ทางเยอรมนีจะเป็นผู้นำการหารือ โดยจะมีการประชุมผู้นำเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปในวันที่ 18 มิ.ย.นี้

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่จะแกว่งตัวในแดนลบราว 0.5-1.5% ใกล้เคียงกับตลาดหุ้นไทย แต่ตลาดหุ้นไทยอาจจะติดลบน้อยกว่า

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (16 มิ.ย.) นายกรภัทร กล่าวว่า ตลาดโดยรวมคงจะแกว่งย่ำฐานในกรอบแนวต้านจำกัดที่ 1,515 จุด ส่วนแนวรับ 1,494-1,490 จุด ทั้งนี้ ช่วงนี้ให้เลือกลงทุนเป็นรายตัวไป โดยเฉพาะตัวที่เห็นว่าราคาได้ถึง Bottom แล้ว และมีสัญญาณการฟื้นตัวของกำไร อย่างหุ้นในกลุ่มแบงก์ อาทิ KBANK, SCB เป็นต้น รวมถึงหุ้น WORK, MONO ก็น่าสนใจลงทุน
กำลังโหลดความคิดเห็น