xs
xsm
sm
md
lg

เผย 2 ปัจจัยหลัก “หนี้กรีซ-เฟดขึ้น ดบ.” อาจมีผลต่อพันธบัตรที่ต่างชาติถืออยู่ 18% คาดปลายปีบาทอ่อนแตะ 34.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ธ.กสิกรไทย” คาดเงินบาทอ่อนค่าถึง 34.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐปลายปีนี้ โดยมีสาเหตุจาก 2 ปัจจัยลบหลัก “หนี้กรีซ-เฟดขึ้นดอกเบี้ย” ส่งผลให้เงินทุนไหลออก แต่ความผันผวนคงไม่หนักเท่าอิเหนา เพราะต่างชาติยังถือครองพันธบัตรสูงถึง 30% ย้ำการที่เงินบาทอ่อนค่าเป็นวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจที่ถูกทาง

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เงินบาทมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงอีก โดยคาดว่าถึงระดับ 34.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงปลายปีนี้ จากเดิมที่มองว่าอ่อนค่าถึง 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ สาเหตุเนื่องจากเงินทุนต่างชาติจะมีการไหลออกจากไทยเพิ่มขึ้นเมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนกันยายน หรือตุลาคมนี้ โดยจะมีการขายพันธบัตร ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนที่ต่างชาติถือครองอยู่ร้อยละ 18 เท่านั้น

กรณีดังกล่าวเชื่อว่าสถานการณ์คงไม่รุนแรงเหมือนกับประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากต่างชาติถือครองพันธบัตรของอินโดนีเซียสูงถึงร้อยละ 30 ประกอบกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้าย เปิดโอกาสให้เอกชนนำเงินออกไปลงทุนต่างประเทศได้มากขึ้น จะมีผลให้บาทอ่อนค่าลงอีก โดยในปี 2559 เงินบาทจะอ่อนค่าลงอีกอยู่ที่ประมาณ 34.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้กรีซว่าจะมีข่าวอะไรที่สร้างความประหลาดใจให้แก่ตลาดอีกบ้าง ซึ่งหากออกมาเชิงลบจะกระทบต่อการลงทุนในตลาดเกิดใหม่

นายกอบสิทธิ์ กล่าวว่า การที่ ธปท. ใช้นโยบายเงินบาทอ่อนค่าเพื่อกระตุ้นการส่งออก และกระตุ้นเศรษฐกิจถือเป็นวิธีการที่ถูกต้อง เพราะทำให้ความสามารถการแข่งขันด้านราคาของสินค้าส่งออกไทยสูงขึ้น ซึ่งการส่งออกมีสัดส่วนสูงต่อจีดีพีไทย และมีผลต่อเศรษฐกิจได้เร็ว นอกจากนี้ การที่เงินบาทอ่อนค่าการสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทย เป็นการเพิ่มรายได้ให้ประเทศอีกทางหนึ่ง

ประกอบกับเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอื่นๆ ยังเห็นผลได้ช้า เช่น การบริโภคภายในประเทศที่ยังมีปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนสูงกดดัน การเบิกจ่ายของภาครัฐบาลขยายตัวไม่มาก รวมทั้งยังต้องรอความชัดเจนในการปฏิรูปประเทศ

ส่วนอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้คาดว่าโตร้อยละ 2.8 ลดลงจากที่คาดการณ์ก่อนหน้าว่า โตร้อยละ 3.8 ส่วนส่งออกไทยปีนี้ไม่ขยายตัวเลย เนื่องจากการส่งออกไทยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีมูลค่าเฉลี่ยเพียงเดือนละ 17,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น หากส่งออกจะขยายตัวในปีนี้มูลค่าส่งออกจะต้องเฉลี่ยเดือนละ 22,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น