หุ้นเช้าผันผวนปิดลบ 2.90 จุด โดยมีแรงซื้อกลับในกลุ่มแบงก์ แต่ห่วงว่าอาจไม่ยั่งยืน เนื่องจากภาพรวมยังกังวลเรื่อง ศก. และเงินบาทที่อ่อนค่า อาจส่งผลต่อแรงซื้อต่างชาติ ชี้ค่าเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐ มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงไปอยู่ระดับ 34 บาท ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ขัดขวางต่อเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ ขณะที่แนวโน้มยังมีลุ้นทำรีบาวนด์
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (27 พ.ค.) ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,495.08 จุด ลดลง 2.90 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.19% มูลค่าซื้อขาย 15,797.98 ล้านบาท โดยภาพรวมเช้านี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยสามารถลดช่วงที่ติดลบลงได้ หลังมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์กลับเข้ามา หลังจากที่หุ้นหลายธนาคารปรับลดลงไปถึงจุดรับแล้ว ทั้งหุ้น ธ.กรุงไทย (KTB) ธ.ไทยพาณิชย์ (SCB) และ ธ.กรุงเทพ (BBL) แต่แรงซื้อที่กลับเข้ามาคาดว่าจะไม่ยั่งยืนมากนัก เนื่องจากภาพรวมของตลาดยังคงมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจไทย
โดยล่าสุด ตัวเลขการส่งออกในเดือน เม.ย. ยังคงติดลบแต่ก็มีทิศทางที่ชะลอตัวลง ทำให้ตลาดคาดว่าการส่งออกในเดือน พ.ค. น่าจะดีขึ้น จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเร็ว แต่ในส่วนของเอเซีย พลัสฯ ยังไม่มีการปรับประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในปีนี้แต่อย่างใด โดยยังคงคาดการณ์ว่า จีดีพีของไทยในปีนี้จะเติบโตในระดับ 2.5%
นอกจากนี้ ตลาดยังมีความกังวลต่อการที่หลายสำนักวิจัยได้ทยอยปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ลง ส่งผลให้ค่า P/E แพง และมี upside ที่จำกัด อีกทั้งค่าเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐ มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงไปอยู่ระดับ 34 บาท ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ขัดขวางต่อเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติด้วย
สำหรับแนวโน้มการซื้อขายในช่วงบ่าย คาดว่าดัชนีอาจจะกลับมายืนในแดนบวกได้ แต่ไม่น่าจะเกินระดับ 1,500 จุด โดยมองแนวรับในช่วงบ่ายที่บริเวณ 1,486 และแนวต้านที่ 1,502 จุด