ASTVผู้จัดการ - ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้เนชั่นแจงข้อเท็จจริง และเหตุผลกีดกันผู้ถือหุ้นไม่ให้เข้าร่วมประชุม NMG เข้าข่ายไม่มีธรรมาภิบาล ลิดรอนสิทธิผู้ถือหุ้น ต้องตอบภายในวันที่ 7 พ.ค.นี้
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งว่า วันนี้ (30เม.ย.) ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขอให้บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (NMG) ชี้แจงข้อเท็จจริง และเหตุผลกรณีปรากฏข้อมูลว่า ประธานในที่ประชุมไม่อนุญาตให้ผู้ถือหุ้นบางรายเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 เมษายน 2558 ซึ่งการที่ผู้ถือหุ้นไม่สามารถใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนในการประชุมผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ถือหุ้น ทำให้อาจพิจารณาได้ว่า บริษัทไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การกำกับกิจการที่ดี (Good Corporate Governance)
โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ NMG ชี้แจงข้อมูลเพื่อเผยแพร่ผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 7 พฤษภาคม 2558 และขอให้ผู้ถือหุ้น และผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคำชี้แจงของบริษัทเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนต่อไป
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้ำว่า บริษัทจดทะเบียน และคณะกรรมการบริษัทจดทะเบียนมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการให้การประชุมผู้ถือหุ้นเป็นไปตามหลักการกำกับกิจการที่ดี โดยต้องตระหนัก และให้ความสำคัญถึงสิทธิของผู้ถือหุ้น และไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการละเมิดสิทธิหรือลิดรอนสิทธิของผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (29เม.ย.) บริษัทเนชั่นฯ ได้จัดประชุมผู้ถือหุ้น ประจำปี 2558 ที่โรงแรมแลนด์มาร์ค โดยปรากฏเหตุการณ์ความวุ่นวายก่อนการประชุม เพราะผู้ถือหุ้นบางส่วนถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมประชุม โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ดำเนินการประชุมระบุว่า ประธานในที่ประชุมไม่อนุญาต จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาดูแลความเรียบร้อย และ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ในฐานะตัวแทนฝ่ายกฎหมายของกลุ่ม News ผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ของเนชั่นฯ พร้อมผู้ถือหุ้นที่ทั้งเดินทางมาเอง และมอบฉันทะมาไม่สามารถเข้าร่วมประชุมร่วมกันตั้งโต๊ะภายนอกห้องประชุมเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นก่อนที่จะนำไปแจ้งความต่อไป
อย่างไรก็ตาม การประชุมก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น. ตามกำหนดเดิม นำโดย นายสุทธิชัย หยุ่น และกลุ่มผู้บริหารเนชั่นฯ ซึ่งเสร็จสิ้นลงในเวลา 15.45 น. โดยวาระที่ฝ่ายผู้บริหารเนชั่นฯ นำเสนอได้รับการโหวตผ่านทุกวาระ แม้จะมีผู้ถือหุ้นรายย่อยซักค้านอยู่ก็ตาม รวมถึงการไม่อนุมัติแต่งตั้งกรรมการบริษัทเพิ่มเติม โดยระบุว่ายังไม่มีความชัดเจนในข้อกฎหมายสำหรับผู้ถือหุ้นใหม่ที่เข้ามา