ตลาดหุ้นกลับสู่ความพลิกผันอีกครั้งเนื่องจากขาดแคลนข่าวดี และมีปัจจัยลบเข้ามาซ้ำเติม ทั้งจากปัจจัยภายนอก โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงเช่นเ้ดียวกับราคาน้ำมัน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจภายในไม่ค่อยสดใส โดยเฉพาะการส่งออกเดืิอนมีนาคมที่ติดลบต่อเนื่อง จึงเกิดการเทขายจากนักลงทุนสถาบันทั้งใน และต่างประเทศ และแม้ว่านักลงทุนรายย่อยจะเข้าไปรับแต่ก็รับไม่ไหว ทำให้ดัึชนีทรุดลงต่อเนื่อง
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,531.53 จุด ลดลง 17.30 จุด มูลค่าซื้อขาย 48,747 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ2,653 ล้านบาท
การที่นักลงทุนรายใหญ่ทั้ง 3 กลุ่มพร้อมกันเทขาย เนื่องจากกังวลในปัญหาเศรษฐกิจซึ่งมีแนวโน้มซบเซายืดเยื้อ และส่งผลกระทบต่อการลงทุนจึงเทขายลดความเสี่ยง ขณะที่นักลงทุนรายย่อยที่ขายมาต่อเนื่องก่อนหน้าเมื่อเห็นราคาหุ้นอ่อนตัวจึงเข้ามาช้อนซื้อ โดยหวังว่าราคาจะดีดกลับ แต่ปัญหาคือ ใครจะเป็นผู้จุดพลุแรงซื้อผลักดันราคาหุ้นให้ดีดกลับ เพราะนักลงทุนรายใหญ่ไม่น่าจะมีกลุ่มไหนจุดพลุนำ โดยเฉพาะเมื่อไม่มีข่าวดีหนุน ส่วนรายย่อยมีแต่ตามแห่เท่านั้นไม่มีใครมีพลังเป็นผู้นำลากหุ้นได้
แนวโน้มตลาดพรุ่งนี้คงไม่ดีนัก เพราะนักลงทุน 3 กลุ่มใหญ่ถล่มขาย และปัจจัยภายนอกยังไม่ดี โดยดาวโจนส์ล่วงหน้าติดลบ ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงต่อ ซึ่งอาจฉุดให้ดัชนีปรับสู่ขาลงเต็มตัว
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,531.53 จุด ลดลง 17.30 จุด มูลค่าซื้อขาย 48,747 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ2,653 ล้านบาท
การที่นักลงทุนรายใหญ่ทั้ง 3 กลุ่มพร้อมกันเทขาย เนื่องจากกังวลในปัญหาเศรษฐกิจซึ่งมีแนวโน้มซบเซายืดเยื้อ และส่งผลกระทบต่อการลงทุนจึงเทขายลดความเสี่ยง ขณะที่นักลงทุนรายย่อยที่ขายมาต่อเนื่องก่อนหน้าเมื่อเห็นราคาหุ้นอ่อนตัวจึงเข้ามาช้อนซื้อ โดยหวังว่าราคาจะดีดกลับ แต่ปัญหาคือ ใครจะเป็นผู้จุดพลุแรงซื้อผลักดันราคาหุ้นให้ดีดกลับ เพราะนักลงทุนรายใหญ่ไม่น่าจะมีกลุ่มไหนจุดพลุนำ โดยเฉพาะเมื่อไม่มีข่าวดีหนุน ส่วนรายย่อยมีแต่ตามแห่เท่านั้นไม่มีใครมีพลังเป็นผู้นำลากหุ้นได้
แนวโน้มตลาดพรุ่งนี้คงไม่ดีนัก เพราะนักลงทุน 3 กลุ่มใหญ่ถล่มขาย และปัจจัยภายนอกยังไม่ดี โดยดาวโจนส์ล่วงหน้าติดลบ ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงต่อ ซึ่งอาจฉุดให้ดัชนีปรับสู่ขาลงเต็มตัว