ปธ.แบงก์กสิกรฯ เตือนหากสินค้าประมงถูกแบนจากอียูจริง ส่งผลกระทบเศรษฐกิจไทยหนักแน่ เสนอทั้งรัฐบาล และเอกชนร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ยอมรับสินเชื่อขยายตัวได้ต่ำจนกระทบเป้าสินเชื่อ และกำไรธนาคารพาณิชย์ในปีนี้
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การเสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปไม่ใช่เป็นประเด็นใหญ่ ปัญหาหลักของประเทศไทยคือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แก้ปัญหาการบิน และประมงเถื่อนที่ต้องเร่งแก้ไขให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพราะถ้าอียูห้ามนำเข้าสินค้าประมงของไทย จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยหนัก เพราะในแต่ละปีประเทศไทยส่งออกสินค้าประมงเป็นจำนวนมาก หากอียูปิดประตูการค้ากับไทยจะเกิดวิกฤตต่อเศรษฐกิจไทยแน่นอน ดังนั้น ทั้งรัฐบาล และเอกชนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหานี้ก่อนถึงเส้นตายของอียู
ส่วนภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ปีนี้ขยายตัวต่ำกว่าที่คาด ทำให้หลายหน่วยงานลดคาดการณ์อัตราขยายตัวเศรษฐกิจลง สาเหตุเนื่องจากการส่งออกยังไม่ฟื้นตัว และแม้ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือร้อยละ 1.75 มีผลทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้การส่งออกฟื้นตัวได้ เพราะปัญหาการส่งออกอยู่ที่ตลาดคู่ค้าชะลอตัวลง ดังนั้น ภาคเอกชนจะต้องมุ่งหาตลาดใหม่เข้ามาทดแทน ส่วนการประชุม กนง.ในวันพุธที่ 29 เมษายนนี้ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหรือไม่ขึ้นอยู่กับความเห็นของ กนง. อย่าไปกดดัน กนง.มากจนเกินไป
นายบัณฑูร กล่าวด้วยว่า เนื่องจากเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่ำ ดังนั้น การปล่อยสินเชื่อจึงขยายตัวได้ต่ำด้วย ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่เพิ่มขึ้นเป็นไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจ แต่ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล เนื่องจากธนาคารได้มีการกันสำรองไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ยอมรับว่าธนาคารคงต้องมีการปรับลดเป้าสินเชื่อ และกำไรปีนี้ลง
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย ร่วมมือกับกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ และอาลีเพย์ ขยายโอกาสธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศจีน ที่เติบโตร้อยละ 21.3 ในปีที่ผ่านมา โดยเปิดดิวตี้ฟรี ชอปปิ้งออนไลน์ เพื่อตอบรับกระแสนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาเที่ยวไทยปีละมากกว่า 4 ล้านคน โดยเชื่อมระบบการชำระเงินออนไลน์ผ่านทาง K- Payment Gateway ให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาประเทศไทย สามารถเลือกซื้อสินค้าดิวตี้ฟรีได้ก่อนบนเว็บไซต์ www. KingPowerOnline.com และชำระเงินด้วยบัญชีของอาลีเพย์
