“นารายณ์พร็อพเพอร์ตี้” ขยายธุรกิจรุกอสังหาฯ ตั้งบริษัทลูก “นายณ์ เอสเตท” ด้วยทุนจดทะเบียน 1,300 ล้านบาท บุกตลาดบ้านหรู ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดฯ ประเดิมปีแรกเปิด 7 โครงการ มูลค่า 8,000 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 58 ยอดขาย 2,000 ล้านบาท โตปีละไม่ต่ำว่า 10%
นางอรฤดี ณ ระนอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด กล่าวว่า ภายหลังจากที่บริษัทนารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้ประสบความสำเร็จจากการพัฒนาโครงการไฮเอนด์ ซึ่งได้แก่ พาร์ค พรีว่า รัชดา-พระราม 9 จำนวน 60 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 35-60 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 80%
จากความสำเร็จดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้มองเห็นโอกาส และต้องการต่อยอดการทำตลาดลูกค้าระดับบนที่ยังมีดีมานด์อีกมาก ด้วยการก่อตั้งบริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1,300 ล้านบาท ถือหุ้นโดยบริษัท นารายณ์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จำนวน 97% และตนเองอีก 3% เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับบนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำเลที่ตั้งโครงการโดดเด่น ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม
สำหรับแผนการลงทุนในปีแรกเตรียมเปิด 7 โครงการ มูลค่า 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 5 โครงการ แนวสูง 2 โครงการ ความสูงราว 30 ชั้น ราคาขายเริ่มต้นกว่า 2 แสนบาท/ตารางเมตร ในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรธุรกิจ 3 โครงการ โดยในเดือนพฤษภาคมนี้ เตรียมเปิดตัวโครงการแรก ควอร์เตอร์ 39 โดยร่วมทุนกับบริษัท คูน แคปปิตอล พาร์ตเนอร์ส จำกัด ซึ่งคูน ถือหุ้น 25% โครงการตั้งอยู่บนทำเลสุขุมวิท ซ.39 พัฒนาเป็นคลัสเตอร์โฮม 4 ชั้น รวมชั้นใต้ดิน จำนวน 15 ยูนิต บนเนื้อที่ 2 ไร่ ราคาเริ่มต้น 38-60 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท
“ยอมรับว่าภาวะตลาดอสังหาฯ ในช่วงนี้ชะลอตัว โดยเฉพาะกลุ่มตลาดกลาง-ล่าง แต่สำหรับตลาดไฮเอนด์ หรือลักชัวร์รี่ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะคนมีสตางค์ยังงัยก็ยังมีสตางค์แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่สำหรับราคาบ้าน หรือราคาที่ดินมีแต่จะปรับขึ้น ถ้าไม่ซื้อตอนนี้อนาคตก็จะแพงขึ้นมาก หรือหาซื้อไม่ได้เพราะไม่มีที่ดิน” นางอรฤดี กล่าว
ด้านนายสุธี ลิปนชัยพรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นายณ์ เอสเตทฯ เปิดเผยว่า ในช่วง 3-5 ปี บริษัทตั้งเป้าเติบโตปีละอย่างน้อย 10% โดยในปี 2558 ตั้งเป้ายอดขาย 2,000 ล้านบาท จากการเปิดขาย 7 โครงการใหม่ ในจำนวนมี 1 โครงการที่พัฒนาในต่างจังหวัด