“คลัง” เมินขึ้นภาษีแวตจาก 7% เป็น 10% ยอมรับเศรษฐกิจยังย่ำแย่ หวั่นซ้ำเติมให้ทรุดหนัก “รองนายกฯ” เผยกรอบงบฯ ปี 58 ตั้งไว้ 2.72 ล้านล้านบาท เป็นงบขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท เล็งชงเข้า ครม. สัปดาห์หน้า
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้หารือกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ถึงแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ของไทย โดยจากข้อมูลของไอเอ็มเอฟ พบว่า ปัจจุบันการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) หายไป 14% จากเป้าหมายที่ควรจะเก็บได้ ซึ่งต่ำกว่ายุโรปที่การจัดเก็บแวตหายไปกว่า 17%
นายสมหมาย กล่าวว่า ตนเองได้ชี้แจ้งต่อไอเอ็มเอฟว่า ประเทศไทยต้องจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น เพราะไม่เช่นนั้นประเทศไปไม่รอด โดยอีก 3-4 ปีข้างหน้า หากยังเป็น รมว.คลัง การจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น ก็ต้องขาดดุลสูงขึ้น แต่ไม่เกิน 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ถือเป็นที่ยอมรับของทุกประเทศ โดยในปีงบประมาณ 2559 การขาดดุลจะอยู่ที่ 2.9% เพราะมีรายจ่ายที่ต้องใช้เพิ่มขึ้น ทั้งการดูแลด้านสังคม และการลงทุน
“การขึ้นแวตจากปัจจุบันที่อยู่ 7% นั้นยังไม่ต้องถาม และไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้ ซึ่งการที่ผมไม่พูดก็แปลว่ายังไม่ขึ้นแวต เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจยังแย่อยู่ โดยปีนี้อาจยังขึ้นไม่ได้ และที่ผ่านมาได้ชี้แจงไอเอ็มเอฟว่า รัฐบาลจะปรับปรุงรอยรั่ว และช่องโหว่การจัดเก็บภาษีก่อน หากจะขึ้นแวตก็ต้องหารือกันอีกครั้ง”
ส่วนรายได้ที่หายไปจากการจัดเก็บภาษีน้ำมันที่ลดลงนั้นยังไม่น่าห่วง โดยยืนยันว่าการจัดเก็บรายได้ของรัฐจะเป็นไปตามเป้าหมาย เพราะสามารถนำรายได้ของรัฐวิสาหกิจเข้ามาเพิ่ม ซึ่งรัฐวิสาหกิจก็ต้องเร่งเช่นกัน หากมีกำไรดีขึ้นก็ต้องส่งให้รัฐเพิ่มขึ้น
ด้าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) โดยระบุว่า ที่ประชุมได้พิจารณากรอบงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2559 โดยวางกรอบงบประมาณ 2.72 ล้านล้านบาท ตั้งงบประมาณขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ 2.33 ล้านล้านบาท พร้อมทั้งเพิ่มงบลงทุน 5.4 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 20% และคาดการณ์จีดีพีปี 2559 โตประมาณ 4% โดยเตรียมนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ตามกรอบงบประมาณปี 2559 ได้ให้ความสำคัญในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน โดยตั้งงบ 1.38 แสนล้านบาท และงบประมาณบริหารจัดการน้ำ 7 หมื่นล้านบาท
