ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมภาคเหนืออย่าง เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน ต้องเผชิญกับสถานการณ์หมอกควันที่ค่อนข้างรุนแรงเมื่อเทียบกับช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายขึ้น น่าจะส่งผลดีต่อกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวหนึ่งของภูมิภาคนี้ โดยช่วงเทศกาลสงกรานต์เดือนเมษายน ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายของการสร้างเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยวเข้าสู่พื้นที่ภาคเหนือของไทยก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซันของการท่องเที่ยวของภูมิภาคนี้
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าช่วงวันหยุดยาวติดต่อกัน 5 วันของเทศกาลสงกรานต์ปี 2558 จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยว 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนคึกคัก โดยมีจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เป็นปลายทางท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ซึ่งมีแนวโน้มก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในพื้นที่มูลค่าประมาณ 9,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 เมื่อเทียบกับคาดการณ์ของช่วงเดียวกันในปี 2557
สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเป็นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ค่อนข้างมีบทบาทต่อภาคการท่องเที่ยวของไทยปีนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าอาจจะมีชาวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไม่ต่ำกว่า 65,000 คน ซึ่งจะก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในพื้นที่ดังกล่าวมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าช่วงวันหยุดยาวติดต่อกัน 5 วันของเทศกาลสงกรานต์ปี 2558 จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยว 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนคึกคัก โดยมีจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เป็นปลายทางท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ซึ่งมีแนวโน้มก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในพื้นที่มูลค่าประมาณ 9,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 เมื่อเทียบกับคาดการณ์ของช่วงเดียวกันในปี 2557
สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเป็นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ค่อนข้างมีบทบาทต่อภาคการท่องเที่ยวของไทยปีนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าอาจจะมีชาวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไม่ต่ำกว่า 65,000 คน ซึ่งจะก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในพื้นที่ดังกล่าวมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท