“ฟิฟธ์ ดีเวลลอปเมนท์” อสังหาฯ น้องใหม่ ไม่หวั่นสินค้าล้นตลาดทำเลศรีราชา ชลบุรี ลุยเปิดบ้าน-คอนโดฯ 2 โครงการวด ชี้บ้านราคา 1-3 ล้านยังขายดี เน้นจับกลุ่มลูกค้าพนักงานในนิคมอุตสาหกรรม ตั้งเป้าปี 58 รายได้ 1,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง เล็งเพิ่มรายได้จากค่าเช่า หวังปี 61 รายได้ทะลุ 2,100 ล้านบาท
นายบุญชัย มหาทรัพย์สิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิฟธ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทถือเป็นน้องใหม่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2556 ด้วยทุนจดทะเบียน 480 ล้านบาท ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียมมาแล้ว 3 โครงการ ได้แก่ ฟิฟธ์ เอเวนิว มีโชค-เชียงใหม่ คอนโดมิเนียม 223 ยูนิต มูลค่า 909 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือขาย 20% และฟิฟธ์ คอนโด เชียงใหม่ มูลค่า 154 ล้านบาท และโครงการ ฟิฟธ์ เอเวนิว ลาดกระบัง อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน มูลค่า 834 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินการของบริษัทฯ ในปี 2558 จะพัฒนาทั้งสิ้น 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการ 123 เรสซิเดนซ์ ศรีราชา ตั้งอยู่บนพื้นที่ 40 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท พัฒนาใน 4 รูปแบบ ประกอบด้วย บ้านแฝด จำนวน 66 ยูนิต บ้านเดี่ยว 5 ยูนิต อาคารชุด สูง 8 ชั้น จำนวน 7 อาคาร รวม 1,333 ยูนิต และอาคารพาณิชย์ จำนวน 40 ยูนิต โดยเฟสแรกจะเปิดขายในส่วนของบ้านแฝดก่อน 26 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 3.99 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว จำนวน 2 ยูนิต ราคา 5.2 ล้านบาท
โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 เมษายน 2558 ด้านการก่อสร้างขณะนี้คืบหน้าไปแล้วกว่า 60% และจะสามารถทยอยโอนได้ในช่วงปลายไตรมาส 2 นี้ ส่วนเฟส 2 จะเปิดขายในไตรมาส 4/2558 ซึ่งประกอบไปด้วย โครงการแนวราบ และอาคารชุด โดยอาคารชุดขนาดเริ่มต้นที่ 26-51 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 1.4 ล้านบาท
2.โครงการ เดอะ วัลเล่ย์ บ่อวิน 1 ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 99 ไร่ เป็นทาว์เฮาส์ ขนาด 21 ตารางวา ราคา 1.1 ล้านบาท จำนวน 900 ยูนิต และบ้านเดี่ยว ขนาด 50 ตารางวา ราคา 2.2 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท
“ชลบุรี เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจาก กทม. และเศรษฐกิจค่อนข้างดี มีกำลังซื้อมาก และผลจากการสำรวจพบว่า แม้ว่าในหลายทำเลของชลบุรีมีสินค้าคงเหลือจำนวนมาก แต่สำหรับคอนโดฯ ล้านต้นๆ และบ้านราคาที่ไม่สูงมากนัก หรือประมาณ 1-3 ล้านบาท ยังขายดีมาก โดยเฉพาะในย่านศรีราชราชา ที่เป็นจุดศูนย์กลางของที่พักอาศัย และแหล่งชอปปิ้ง”
นายบุญชัย กล่าวเพิ่มว่า สำหรับแผนการลงทุนในอนาคต นับจากปี 2558 เป็นต้นไป บริษัทฯ จะพัฒนาโครงการภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ฟิฟธ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จากเดิมที่บริหารอยู่ 3-4 บริษัท ทั้งนี้ เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ เพื่อปูทางในการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในปี 2561 และจะต้องมีรู้รายได้ที่โตต่อเนื่อง โดยปี 2558 ตั้งเป้ารับรู้รายได้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ปี 2559 จำนวน 1,500 ล้านบาท ปี 2560 จำนวน 2,000 ล้านบาท และปี 2561 มากกว่า 2,100 ล้านบาท
นอกจากนี้ ภายในปี 2561 บริษัทฯ ยังตั้งเป้าพัฒนาโครงการอสังหาฯ ให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ รายได้มาทั้งจากการขาย และรายได้จากการเช่า โดยปัจจุบัน ได้พัฒนาโครงการในรูปแบบบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ และคอนโดฯ แล้ว ส่วนโครงการอสังหาฯ เพื่อให้เช่า เช่น คอมมูนิตี มอลล์ และอพาร์ตเมนต์จะเริ่มพัฒนาได้ในปี 2561
“รายได้จากการให้เช่าจะเน้นสัดส่วนไม่เกิน 20% ขณะนี้อยู่ในระหว่างการมองหาที่ดิน และศึกษาข้อมูลทางการตลาด” นายบุญชัย กล่าว
นายบุญชัย กล่าวว่า สนใจที่จะพัฒนาคอนโดมิเนียมไฮไรซ์ ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายปัจจุบันและสายที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยจะเป็นการร่วมทุนกับกลุ่มนักลงทุนชาวจีน ที่มีเม็ดเงินพร้อมที่จะลงทุนทันที หากสามารถหาที่ดินที่มีศักยภาพ และเหมาะสมมาพัฒนาได้ ซึ่งขณะอยู่ในระหว่างการมองหาที่ดินในทำเลงามวงศ์วาน และติวานนท์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องการร่วมทุนได้ในปี 2559 โดยคาดว่าจะต้องใช้เม็ดเงินลงทุนฝ่ายละ 600 ล้านบาท รวมมูลค่าลงทุน 1,200 ล้านบาท
“หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC เชื่อว่าจะมีนักลงทุนจากจีนเข้ามาร่วมทุนกับผู้ประกอบการการไทยอีกเป็นจำนวนมาก” นายบุญชัย กล่าว