แอลดีซี เด็นทัล ทุ่มงบ 100 ล้านบาท ขยาย 10 สาขา ปีนี้ลั่นดันรายได้แตะ 1,000 ล้านบาท ในปี 2560 ตามเป้า “หมอหนึ่ง ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์” แม่ทัพใหญ่ เผยแค่ไตรมาสแรกเดินตามแผนไปแล้ว 6 สาขา ได้ทำเลทองที่เชียงราย มหาสารคาม นครศรีธรรมราช อุบลราชธานี นครพนม มุกดาหาร คาดเปิดให้บริการ และเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/58 นี้ แถมรอเซ็นสัญญาในทำเลใหม่ที่เหมาะสมเพิ่มอีก ไม่หมดเท่านี้ยังอยู่ระหว่างเจรจากับเจ้าของคลินิกทันตกรรมท้องถิ่นเพื่อเป็นอีกช่องทางการเติบโต
ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) หรือ LDC ผู้ให้บริการศูนย์ทันตกรรมทันตแพทย์เฉพาะทางในนาม “ศูนย์ทันตกรรม แอลดีซี” เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าขยายสาขาใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยวางงบลงทุนปีนี้ราว 100 ล้านบาท เพื่อขยายสาขา จำนวน 10 สาขา ตามแผนที่วางไว้ ไม่รวมมูลค่าที่ดิน เพื่อสนับสนุนให้ปี 2560 บริษัทฯ จะมีรายได้ 1,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ และสาขาใหม่จะเน้นในทำเลที่เหมาะสมทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงตามหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด จากที่ผ่านมา LDC มีสาขาอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น ซึ่ง ณ สิ้นปี 2557 บริษัทฯ มีสาขารวมทั้งสิ้น 21 สาขา
ส่วนความคืบหน้าไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯ ได้ 6 ทำเลทองใหม่ในต่างจังหวัดเรียบร้อยแล้ว เพื่อเปิดศูนย์ทันตกรรมเฉพาะทางในนาม LDC Dental เพิ่มเติม ได้แก่ จ.เชียงราย จ.มหาสารคาม จ.นครศรีธรรมราช จ.อุบลราชธานี จ.นครพนม และ จ.มุกดาหาร ซึ่งจะเป็น 6 สาขาใหม่ ล่าสุด ที่คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างตกแต่ง พร้อมเปิดให้บริการและเริ่มรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4/2558 นี้ นอกจากนี้ ยังมีดีลที่อยู่ระหว่างรอการเซ็นสัญญาเพิ่มเติมอีกหลายทำเลด้วยกันเข้ามาสนับสนุนเป้าหมายการขยายสาขาทั้งปีที่วางไว้ จำนวน 10 สาขาได้สำเร็จ แต่ทั้งนี้รูปแบบการขยายสาขาของ LDC มีหลากหลายช่องทาง นอกเหนือจากการลงทุนเพื่อเปิดสาขาเอง บริษัทฯ ก็ให้ความสนใจการร่วมทุน และการเข้าซื้อกิจการ โดยจะพิจารณาเลือกพื้นที่ตามทำเลที่ตั้งเหมาะสม และปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการคลินิกหลายราย ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป แต่เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี
อย่างไรก็ตาม การเปิดสาขาใหม่ในช่วงแรกๆ บริษัทฯ จะรับรู้รายได้ไม่เต็มที่ ซึ่งเป็นไปตามรูปแบบธุรกิจที่ต้องอาศัยความเชื่อมั่น และการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง จึงประเมินรายได้จากสาขาใหม่ของ LDC ใช้เวลา 3-5 ปี จึงจะถึงจุดคุ้มทุน
“กลยุทธ์ขยายสาขาของ LDC เน้นสร้างมาตรฐานใหม่ของการทำฟัน ทั้งทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เครื่องมือทันสมัย อยู่ในทำเลที่เหมาะสม และระบบที่มีมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา เพื่อสร้างความได้เปรียบจากคู่แข่งซึ่งเป็นคลินิกรายย่อย และตั้งแต่ LDC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และได้รับความเชื่อถือ บวกกับที่ผ่านมา LDC ได้สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับทันตแพทย์เฉพาะทางในพื้นที่ต่างหวัดอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าจะช่วยลดปัญหาเรื่องการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรองรับสาขาที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน” ทันตแพทย์วัฒนา กล่าว
ทันตแพทย์วัฒนา กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ในช่วงปลายปี 2557 ที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไม่คึกคักเท่าไหร่นัก บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ในการออกโปรโมชันเพื่อกระตุ้นการเข้าใช้บริการ รวมทั้งเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มองค์กรมากขึ้น เพื่อเป็นอีกช่องทางการเติบโต และยังคงให้ความสำคัญในการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพราะการมีสาขามากพอ จะทำให้บริษัทฯ เกิดการประหยัดต่อขนาด (economy of scale) เป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนให้ LDC เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2557 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 7.08 ล้านบาท จากปี 2556 มีกำไรสุทธิ 13.34 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 341.03 ล้านบาท จากปี 2556 มีรายได้ 350.47 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิที่ลดลงนั้นเป็นผลจากรายได้รวมที่ลดลง และต้นทุนบริการเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการเปิดสาขาใหม่ 2 สาขาในระหว่างปี จึงมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้ค่ารักษาทางการแพทย์ยังมีไม่มาก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติทางธุรกิจสำหรับการเปิดสาขาใหม่ ส่วนสาขาเก่าที่เปิดให้ดำเนินการอยู่แล้วมีอัตราการเข้าใช้บริการน้อยลง จากปกติช่วงสิ้นปีจะเป็นช่วงที่มีการเข้าใช้บริการคึกคัก ซึ่งเป็นไปตามภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอการใช้จ่าย และการบริโภค
“เรายังมองว่าภาพรวมธุรกิจทันตกรรมในช่วงต่อจากนี้จะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เนื่องจากการดูแลรักษาสุขภาพในช่องปากเป็นสิ่งจำเป็น และปัจจุบันมีเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย คนเริ่มให้ความสำคัญในการการรักษาสุขภาพในช่องปากมากขึ้น รวมทั้งการรักษาทางทันตกรรมเพื่อความสวยงามได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นลำดับ จึงเป็นทิศทางที่ดีสำหรับธุรกิจ นอกจากนี้ การเปิด AEC จะเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนธุรกิจทันตกรรมในประเทศให้ได้รับประโยชน์ และจะสนับสนุนให้สาขาที่มีพื้นที่ติดประเทศเพื่อนบ้านได้รับประโยชน์ในการเข้าใช้บริการมากขึ้นตามไปด้วย” ทันตแพทย์วัฒนา กล่าว