ที่ประชุม กสท.โหวต 3 ต่อ 2 ชี้โซลูชั่น คอนเนอร์ เข้าถือหุ้นของ เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป มีสัดส่วนเพียง 12.27% ไม่เกินกว่า 25% และไม่ปรากฏว่ากระทำการขัดต่อเงื่อนไขต่อผลประโยชน์ทีี่เกิดขึ้นร่วมกัน
คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท.ได้ลงมติ 3 ใน 2 ต่อกรณีการเข้าถือหุ้นของ บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) หรือ SLC ในการเข้าถือหุ้นของ บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป หรือ NMG ในสัดส่วนเพียง 12% ในสัดส่วนที่ถือว่าเข้าข่ายผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน และเป็นการถือครองใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิตอลในหมวดหมู่เดียวกันเกินสัดส่วนร้อยละ 10 ตามที่ประกาศกำหนดไว้ก่อนการประมูล ซึ่งถือว่าไม่ได้มีการผิดเงื่อนไขต่อประกาศของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต่อข้อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกให้ใช้คลื่นความถี่ ในกิจการกระจายเสียง หรือกิจการโทรทัศน์ เพื่อประกอบกิจการทางธุรกิจ พ.ศ.2556
ขณะที่ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสทช. กล่าวว่า การเข้าถือหุ้นร่วมกันเกินร้อยละ10 คือ ขัดกติกา กสทช. ซึ่งตามความเห็นอนุที่ปรึกษากฎหมาย ถ้ายึดกฎกติกาที่วางไว้ปัญหาจะหมดไป เหตุผลในตอนนั้นที่มีการขยายให้ผู้ประมูลใบอนุญาติดิจิตอลทีวีช่อง HD ช่องข่าว และช่องวาไรตี้ SD ก็เพื่อให้ผู้ประกอบการรายใหม่มีโอกาสเข้ามามากขึ้น สร้างความแตกต่างเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งประชุมฯ มีมติ 3 ต่อ 2 เสียงเห็นว่า บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) หรือ SLC ไม่เป็นผู้มีอำนาจควบคุม บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป หรือ NMG ที่เป็นผู้ถือหุ้นหลักในบริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์วิชั่น จำกัด (NNV) โดยได้รับใบอนุญาตดิจิตอลทีวีช่องข่าวสาร เนชั่นทีวี เพราะถือหุ้นใน NMG เพียง 12.27% ไม่เกินกว่า 25% และไม่ปรากฏว่า กระทำการขัดต่อเงื่อนไขการมีผลประโยชน์ร่วมกัน จึงไม่ขัดต่อประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกให้ใช้คลื่นความถี่ ในกิจการกระจายเสียง หรือกิจการโทรทัศน์ เพื่อประกอบกิจการทางธุรกิจ พ.ศ.2556