กลุ่มบิวท์ฯ ปลื้มลูกค้าตอบรับดี หลังกวาดยอดขาย 120 ล้านบาทในงาน “Home Builder Focus 2015” คาดหลังจบงานลูกค้าตัดสินใจสร้างเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ฟุ้งลูกค้ามั่นใจแบรนด์ และศักยภาพ “บิวท์ ทู บิวด์” แม้อยู่ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจ และกำลังซื้อชะลอตัว
นายวรพจน์ เอี่ยมสุวรรณ กรรมการบริหารสายงานการตลาด บริษัทในกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ กล่าวว่า หลังจากจบงานออกบูทงานรับสร้างบ้าน “Home Builder Focus 2015” ซึ่งสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 มี.ค. ที่ผ่านมา ปรากฏว่า กลุ่มบิวท์ฯ สามารถสร้างยอดขายในงานได้กว่า 120 ล้านบาท ถือเป็นการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากงานดังกล่าว กลุ่มบิวท์ฯ คาดว่าจะสามารถตามปิดการจองของลูกค้าที่มีแผนจะสร้างบ้านในปีนี้ แต่อยู่ระหว่างการตัดสินใจเลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านแบรนด์ใด หรือรอดูโปรโมชันก่อนตัดสินใจสร้างบ้านได้อีกไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท
สำหรับความสำเร็จด้านยอดขายที่สวนกระแสเศรษฐกิจ และกำลังซื้อที่ชะลอตัว จากผลกระทบจากภาวะที่ผู้บริโภคระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายเงินในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานั้น สืบเนื่องมาจากการปรับแผนการตลาดให้มีความสอดคล้องต่อสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลง และเหมาะสมต่อความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำแบบบ้านที่มีระดับราคาที่ครอบคลุมตั้งแต่ 1-30 ล้านบาท และมีสไตล์ให้เลือกอย่างหลากหลาย พร้อมทั้งสามารถปรับเปลี่ยนแบบ และฟังก์ชันการใช้งานได้ตามที่ต้องการ และด้วยโปรโมชันพร้อมมอบข้อเสนอพิเศษที่นำมาการกระตุ้นยอดขาย ซึ่งนับว่าการออกบูทครั้งนี้ได้ให้สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างบ้านด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 20%
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าที่ตัดสินใจจองสร้างบ้านในงานดังกล่าวเป็นลูกค้าในกลุ่มตลาดขนาดกลาง ระดับราคาการสร้างบ้านตั้งแต่ 3-5 ล้านบาทเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการ และความตั้งใจที่จะปลูกสร้างบ้านจริงๆ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ ลูกค้าที่ได้เข้ามาทำการจองสร้างบ้านในงานดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยได้ทำการติดต่อกับทางบริษัทฯ มาก่อน ซึ่งคาดว่าเกิดจากการบอกต่อ และคำแนะนำของผู้ที่เคยใช้บริการจากกลุ่มบิวท์ฯ
“ในปัจจุบันก่อนการตัดสินใจปลูกสร้างลูกค้าได้ทำการศึกษาหาข้อมูลมาเป็นอย่างดี พร้อมกับมีความมั่นใจในคุณภาพ และบริการ ทำให้เกิดความไว้วางใจในชื่อเสียงการสร้างบ้านต่อกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ จนเกิดความแน่ใจ และตัดสินใจสร้างบ้านในที่สุด ซึ่งจากความสำเร็จในครั้งนี้นับว่าเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อมาตรฐานการบริการ และศักยภาพของกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจ และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังชะลอตัวได้เป็นอย่างดี”