กลุ่มบริษัท จาร์เค็น จำกัด ตั้งเป้ารายได้โต 15% ต่อเนื่องทุกปี หวังทะลุ 600 ล้านบาท ในปี 60 พร้อมชูแนวคิด Think Global, Act Local เชื่อมโยง ปรับเปลี่ยน แชร์ต่อ พร้อมเดินหน้าสู่ความเป็นดีไซน์แบรนด์อย่างเต็มตัว
ดร.กุลเดช สินธวณรงค์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท จาร์เค็น จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันสังคมโลกมีการเปลี่ยนแปลงไป มีการผสมผสานกระแสทางความคิด ความเชื่อและวัฒนธรรมความเป็นสากล และท้องถิ่นเข้าด้วยกันมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อสภาพของเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันที่ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัว และก้าวตามให้ทัน ซึ่งบริษัทฯ ก็จะต้องปรับตัวตามกระแสสังคมให้ทัน จึงเป็นที่มาของแนวคิด ธิงค์ โกบอล แอค โลเคิล (Think Global Act Local) หรือการผสมผสานกระแสทางความคิด ความเชื่อ และวัฒนธรรมความเป็นสากลและท้องถิ่น (Glocality) เข้าด้วยกัน
“กว่าสิบปีที่ผ่านมา จาร์เค็นฯ จับตาดูความเป็นแปลงของสภาวะสังคม และเศรษฐกิจที่มีอยู่ตลอดเวลา และแม้ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันมีความเป็นตัวของตัวเอง ฉลาดคิด ฉลาดเลือกมากขึ้น แต่ผู้บริโภคก็ยังคงเสพความเชื่อ และตามกระแสโลกอยู่ (Global Trend) ทำให้หลากหลายแบรนด์ใหญ่จากต่างประเทศหันมาทำแคมเปญที่ให้สังคมมีส่วนร่วมต่อแบรนด์ในรูปแบบที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น การออกแบบร้าน Pop-up store ของกาแฟ illy คอลเลกชันแนว Street Art ของ Prada รวมถึงแบรนด์แฟชั่น Roberto Cavalli ที่เริ่มออกมาทำเฟอร์นิเจอร์ และอินทีเรียร์ดีไซน์ หรือแม้แต่วิศวกรอย่าง Tom Dixon ก็ออกมาทำเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน และบริษัทสถาปนิก ทั้งนี้ Glocality คือ การทำให้แบรนด์เข้าไปถึงสัมผัสถึงมือผู้บริโภค โดยไม่ต้องรอให้ผู้บริโภคเข้าหา หรือเดินตามหาแบรนด์”
ดร.กุลเดช กล่าวต่อว่า กลยุทธ์ของบริษัทฯ ใน 3 ปีนี้ จะเน้นขับเคลื่อนให้งานดีไซน์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคนในสังคม ด้วยการเชื่อมโยง-ปรับเปลี่ยน-แชร์ต่อ ความเหมือนและความแตกต่างของวัฒนธรรม และความเป็นอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ในโลก ไม่ว่าเอเชีย ยุโรป อเมริกา หรือออสเตรเลีย ให้คนไทยเข้าใจผ่าน 3 วิธี คือ การสร้างแรงบันดาลใจ และประสบการณ์จากการเดินทาง (Inspiration and education) การกระจายงานดีไซน์เข้าสู่ในชุมชน และสังคม เข้าไปส่งเสริม ตอบแทน และมีส่วนร่วมกับคนในสังคมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดผ่านทางโครงการต่างๆ รวมถึงการเพิ่มช่องทาง และวิธีการสื่อสาร ปรับภาษาของสถาปนิก และดีไซเนอร์ที่มักจะเข้าใจยากและซับซ้อน ด้วยวิธีการสื่อสารในรูปแบบใหม่ นำเสนอเรื่องราวที่ผู้บริโภคอยากฟังให้เข้าใจง่าย ส่งเสริมให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญ และได้ประโยชน์จากงานออกแบบ ไม่ใช่แค่ในเรื่องของส่งเสริมการทำธุรกิจที่ตีค่าด้วยเม็ดเงิน
“สิ่งที่สามารถมองภาพได้เป็นรูปธรรมมากที่สุด คือ โครงการสถาปัตย์บำบัดที่ได้ร่วมกับทีมแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลชั้นนำของไทย ที่เป็นการนำองค์ความรู้ด้านสถาปัตยกรรม และทางการแพทย์มาช่วยฟื้นฟูอาการเจ็บป่วยให้แก่ผู้ป่วย และผู้สูงอายุ โดยเข้าไปช่วยในการปรับสภาพแวดล้อมในที่อยู่อาศัยให้ปลอดภัย และมีชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งยังมีโครงการออกแบบสถาปัตยกรรมภายในให้แก่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ให้กลายเป็นโรงพยาบาลชั้นนำของจังหวัด และภาคเหนือตอนล่าง และการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับการเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุภายในที่อยู่อาศัย เพื่อเปลี่ยนมุมมองของแบรนด์ JARKEN จากของเรา (ours) เป็นของทุกคน (theirs) เปลี่ยนจากที่นี่ (here) เป็นที่ไหนก็ได้ (anywhere) และทำให้ผู้บริโภคทุกคนเข้าถึงสัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมงานดีไซน์ในแบบอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่ใช่แค่ความสวยงาม ความชอบ หรือสไตล์ใดๆ อีกต่อไป” ดร.กุลเดช กล่าว
ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2558 นี้ จะมีรายได้รวมประมาณ 500 ล้านบาท หรือโตขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 15% จากปี 2557 ที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็น 80% สำหรับธุรกิจในปัจจุบัน และ 20% สำหรับธุรกิจใหม่ และตั้งเป้ามีรายได้เติบโตขึ้นจนแตะ 600 ล้านบาท ภายในปี 2560 นี้ โดยอาศัยแนวคิด Think Global, Act Local ในการเดินหน้าสู่ความเป็นดีไซน์แบรนด์อย่างเต็มตัว จากการขยายธุรกิจการให้บริการงานออกแบบสถาปัตยกรรม-สถาปัตยกรรมภายใน งานรับเหมาก่อสร้าง งานกราฟิกดีไซน์ ที่ปรึกษาการพัฒนาแบรนด์สินค้าและบริการ สู่ผลิตภัณฑ์ประเภทเฟอร์นิเจอร์ แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่จะตอบโจทย์ความต้องการ และรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในยุคสังคมนี้ได้อย่าง 360º อีกทั้งการขยายฐานลูกค้าสู่ AEC และต่างประเทศในแถบเอเชียมากขึ้น