ตลาดหุ้นสัปดาห์ที่ผ่่านมาเข้าสู่ช่วงเวลาที่พลิกผัน ดัชนีเริ่มขยับไม่ไหว เกิดความพลิกผัน และทรุดตัวลงมาในลักษณะซึมลง เพราะนอกจากจะไม่มีข่าวดีแล้วยังมีัปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจ การเมืองในประเทศ และแรงขายของต่างชาติ ทำให้นักลงทุนรายย่อยเริ่มท้อไม่กล้าไล่หุ้น และหันมารอจังหวะขายมากขึ้น
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,587.01 จุด ลดลง 6.54 จุด มูลค่าซื้อขาย 56,707 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 766 ล้านบาท
ปัจจัยภายนอกไม่มีความเคลื่อนไหวใดชี้นำ เพราะตลาดหุ้นต่างประเทศก็ขยับตัวในกรอบแคบๆ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับต่ำ ปัจจัยภายในประเทศที่แต่ความไม่นิ่งทั้งการเมืองและเศรษฐกิจที่กำลังเงียบเหงาสุดขีด ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองตลาดไม่ดีนัก ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนรายย่อย โดยจะลดความฮึกเหิมในการเก็งกำไรลง
แนวโน้มตลาดสัปดาห์ใหม่ไม่น่าจะสดใส และตลาดดูเหมือนจะรอคอยข่าาวร้ายมากกว่าข่าวดี โอกาสปรับฐานต่อมีมากกว่าจะดีดตัวกลับไปที่ระดับ 1,600 จุด แต่เพราะนักลงทุนในประเทศเงินเหลือเฟือ ทำให้การปรับฐานเกิดขึ้นไม่รุนแรง แต่ถ้ามีข่าวร้ายเข้ามาน่าระวังการปรับฐานรอบใหญ่
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,587.01 จุด ลดลง 6.54 จุด มูลค่าซื้อขาย 56,707 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 766 ล้านบาท
ปัจจัยภายนอกไม่มีความเคลื่อนไหวใดชี้นำ เพราะตลาดหุ้นต่างประเทศก็ขยับตัวในกรอบแคบๆ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับต่ำ ปัจจัยภายในประเทศที่แต่ความไม่นิ่งทั้งการเมืองและเศรษฐกิจที่กำลังเงียบเหงาสุดขีด ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองตลาดไม่ดีนัก ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนรายย่อย โดยจะลดความฮึกเหิมในการเก็งกำไรลง
แนวโน้มตลาดสัปดาห์ใหม่ไม่น่าจะสดใส และตลาดดูเหมือนจะรอคอยข่าาวร้ายมากกว่าข่าวดี โอกาสปรับฐานต่อมีมากกว่าจะดีดตัวกลับไปที่ระดับ 1,600 จุด แต่เพราะนักลงทุนในประเทศเงินเหลือเฟือ ทำให้การปรับฐานเกิดขึ้นไม่รุนแรง แต่ถ้ามีข่าวร้ายเข้ามาน่าระวังการปรับฐานรอบใหญ่