xs
xsm
sm
md
lg

ปัจจัยในประเทศกดดัชนีหลุดแนวรับจิตวิทยา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หลายปัจจัยลบในประเทศกดหุ้นไทยปรับตัวลงกว่า 22 จุด นักวิเคราะห์แนะ “ถือเงินสด” รอดูทิศทาง

เมื่อเวลา 11.07 น. ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,569.22 จุด ลดลง 20.11 จุด เปลี่ยนแปลง -1.27%

และเมื่อเวลาประมาณ 11.24 น. ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,576.85 จุด ลดลง 12.48 จุด เปลี่ยนแปลง -0.79% มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 28,579.42 ล้านบาท

นายธนพล บำรุงพงศ์ นักวิเคราะห์ สำนักวิจัย บล.ทิสโก้ ระบุ SET แกว่งขึ้นแค่ช่วงเปิดตลาดเช้า ตามหุ้นภูมิภาคที่ปรับขึ้น ขานรับการที่ นางเจเน็ต เยเลย ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED ระบุยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อยในอีก 2 การประชุมข้างหน้า และสหภาพยุโรป หรือ EU อนุมัติแผนช่วยกรีซ แต่ตลาดหุ้นไทยกลับค่อยๆ มีแรงขายต่อเนื่องโดยเฉพาะหุ้นใหญ่ใน SET 50 เนื่องจากหลายปัจจัยที่กระทบจิตวิทยาการลงทุนยังไม่คลี่คลาย

“การประกาศตัวเลขส่งออกไทย ม.ค. พลิกติดลบผิดคาด และข่าวเลื่อนประมูล 4G กดดันหุ้น ICT อย่างหนัก ความอ่อนแอของหุ้นไทยเกิดจากปัจจัยภายในประเทศเฉพาะตัว ประกอบกับ SET เมื่อวานไม่สามารถปิดเหนือระดับ 1,600 แม้มีกระแสข่าวดีจากต่างประเทศ” นายธนพล กล่าว

พร้อมแนะนำ Wait & See และควรเฝ้าระวัง SET หากปิดต่ำกว่าระดับ 1,580 ควรหยุด (Stop Loss) สำหรับ นลท.ที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูง ต้องการเทรดดิ้งระยะสั้น แนะนำ TTA เพราะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลที่ดัชนีค่าระวางเรือปรับขึ้น, M เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวของกำไร ตลาดน่าจะปรับมุมมองเป็นเชิงบวกมากขึ้น นอกจากนี้ แนะนำซื้อ CPF, TTA/ถือต่อ ITD, LH, SCB, SRICHA, TICON/ขายทำกำไร SUPER

สอดคล้องต่อ นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุสาเหตุหลักที่ทำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงกว่า 20 จุด ว่า เกิดจากหลังจากดัชนีฯ หลุดแนวรับสำคัญที่ 1,580 จุดลงไป ส่งสัญญาณ Sentiment การขายเพื่อล็อกกำไร อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจของไทยที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (25 ก.พ.) ทั้งส่งออก-นำเข้าก็ออกมาไม่ดี ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เป็นลักษณะของการแกว่งไซด์เวย์ในแดนลบเล็กน้อย แต่ตลาดบ้านเราอ่อนกว่าภูมิภาค มองว่าคงจะเป็นการพักฐานในระยะสั้น พร้อมให้แนวรับถัดไปที่ 1,550 จุด ซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจเข้าซื้อเพื่อรอลุ้นรีบาวนด์ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,580 จุด

นอกจากนี้ ปัจจัยกดดันตลาดอีกประการ เกิดจากผลประกอบการใน 4Q57 ต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ตัวเลขกำไรตลาดที่ออกมาน่าจะกำไรลดลง โดยหากคำนวณ PE ตลาดด้วย Earning 4Q ย้อนหลังที่ผ่านมา พบว่า ภาพรวม 4Q ย้อนหลัง Net Profit หายไปไม่น้อยกว่า 6 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมาจากนักลงทุนสถาบัน และบริษัทหลักทรัพย์
กำลังโหลดความคิดเห็น