“คลัง” พร้อมเดินหน้าหาแหล่งทุนหนุนโครงสร้างพื้นฐาน จับตาบอร์ด PPP หารือไฟนอล 11 ก.พ.นี้ เบื้องต้นกำหนดกรอบแนวทางการเปิดให้เอกชนได้ร่วมลงทุนโครงการขนาดใหญ่ 3 ด้าน ต่างชาติมั่นใจหากโครงสร้างพื้นฐานสำเร็จ ไทยจะมีคนชั้นกลางเติบโตประมาณ 500 ล้านคนในปี 2563
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างการเปิดงานสัมมนา “การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของไทยและกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน 2015″ ที่จัดโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) โดยระบุว่า รัฐบาลจะเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโครงการต่างๆ โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุน (PPP) และเดินหน้าสนับสนุนการตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน จึงคาดว่าระยะ 8 ปีข้างหน้าเงินลงทุนโครงการของรัฐผ่านโครงสร้างพื้นฐานจะส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจให้ขยายตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ คณะกรรมการ PPP จะประชุมครั้งสุดท้ายวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 นี้ เบื้องต้นกำหนดกรอบแนวทางการเปิดให้เอกชนได้ร่วมลงทุนโครงการขนาดใหญ่ 3 ด้าน คือ 1. วงเงินลงทุนต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท มอบหมายให้กระทรวง ส่วนราชการเจ้าของโครงการพิจารณาแผนลงทุนด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการพิจารณาลงทุน โดยไม่ต้องนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ PPP พิจารณา
2. โครงการลงทุนขนาด 1,000-5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการลงทุนบริการสาธารณะเต็มรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับประชาชนส่วนใหญ่ คณะกรรมการ PPP จะนำมาพิจารณาการลงทุน แต่หากเป็นโครงการลงทุนด้านเชิงพาณิชย์ การให้เช่าที่ดิน จะมอบหมายให้เจ้าของโครงการพิจารณาแผนลงทุน
และ 3.โครงการลงทุนเกิน 5,000 ล้านบาท ต้องเสนอคณะกรรมการ PPP พิจารณาแผนการลงทุน จึงคาดว่าจะได้รับความสนใจจากเอกชนเข้าร่วมลงทุนมากขึ้น หากได้ข้อสรุปทั้งหมดจะเสนอ ครม.พิจารณาขั้นต่อไป จากนั้นจะเปิดรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายและคาดว่าทุกอย่างจะสรุปได้ในเดือนเมษายน เพื่อเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนกับรัฐบาลได้
นายเบน เวย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแมคควอรี่ในเอเชีย กล่าวว่า ไทยตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางภูมิภาคในอาเซียน เมื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแล้วคาดว่าไทยจะมีคนชั้นกลางเติบโตประมาณ 500 ล้านคนในปี 2563