หุ้นไทยยังผันผวนต่อ จับตาการหารือของยุโรปต่อการช่วยเหลือกรีซ ภาพรวมเม็ดเงินต่างชาติยังไหลเข้า ทยอยหนุนต่อเนื่อง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปทิศทางความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ดัชนี SET ขยับขึ้นในช่วงท้ายสัปดาห์ ก่อนจะปิดที่ระดับ 1,613.63 จุด เพิ่มขึ้น 2.05% มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 5.01% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 53,639.64 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกขยับสูงขึ้น รวมถึงความคาดหวังเชิงบวกเกี่ยวกับกรณีของกรีซที่มีการเจรจากับเจ้าหนี้ อย่างไรก็ตาม ดัชนีปิดร่วงลงจากแรงขายทำกำไร
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด มองทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (9-13 ก.พ.) ว่า ดัชนีมีแนวต้านที่ 1,624 และ 1,650 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,592 และ 1,571 จุด โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคงได้แก่ การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น ข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ที่ตลาดคาดว่าจะออกมาค่อนข้างดีซึ่งอาจจะส่งผลต่อการปรับตัวของตลาดหุ้นต่างประเทศต้นสัปดาห์หน้า รวมถึงรายงานยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมทั้งความคืบหน้าในการเจรจาเกี่ยวกับประเด็นหนี้ของกรีซ
นายณัฐชาติ เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทรินีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา ดัชนีมีความผันผวนแต่ยังสามารถเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวันได้ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ดัชนีมีการเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ จากปัจจัยหนุนราคาน้ำมันมีการรีบาวนด์กลับมา
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่ยังสร้างความผันผวนให้แก่ตลาดเกี่ยวกับการเจรจาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเยอรมนี และกรีซที่ยังไม่มีบทสรุปออกมา ซึ่งมีผลต่อสัญญาณของตลาดซื้อขายล่วงหน้าของนักลงทุนต่างชาติมีการทำ short มากขึ้น เพื่อเปิดสถานะใหม่ ทำให้ตลาดมีการแกว่งตัวไซด์เวย์
ทำให้แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ ประเมินว่าดัชนีมีโอกาสแกว่งตัวผันผวน โดยต้องติดตามการประชุมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ของสหภาพยุโรป 19 ประเทศ เกี่ยวกับการอนุมัติแผนช่วยเหลือกรีซชั่วคราว ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 11 ก.พ.58 ซึ่งจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นทั่วโลก พร้อมให้แนวต้าน 1,620-1,630 จุด แนวรับ 1,580 จุด
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์อีกรายประเมินทิศทางตลาดเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มเงินทุนจากต่างชาติยังไหลเข้าภูมิภาคต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 และเป็นการซื้อสุทธิถึง 11 จาก 14 วันหลังสุด ซึ่งที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 9 จาก 12 วันหลังสุด รวมกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ยอดซื้อสุทธิสะสมตั้งแต่ต้นปี 2552 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.8 หมื่นล้านบาท และหากเปรียบเทียบกับข้อมูลในอดีตจะพบว่า ยอดซื้อสะสมดังกล่าวมักจะพักตัวอยู่ที่ระดับราว 8-8.5 หมื่นล้านบาท ทำให้เชื่อว่าแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติยังคงมีเหลืออยู่อีกราว 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นการทยอยเข้าซื้อ และหนุนตลาดหุ้นไทยได้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปทิศทางความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ดัชนี SET ขยับขึ้นในช่วงท้ายสัปดาห์ ก่อนจะปิดที่ระดับ 1,613.63 จุด เพิ่มขึ้น 2.05% มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 5.01% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 53,639.64 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกขยับสูงขึ้น รวมถึงความคาดหวังเชิงบวกเกี่ยวกับกรณีของกรีซที่มีการเจรจากับเจ้าหนี้ อย่างไรก็ตาม ดัชนีปิดร่วงลงจากแรงขายทำกำไร
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด มองทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (9-13 ก.พ.) ว่า ดัชนีมีแนวต้านที่ 1,624 และ 1,650 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,592 และ 1,571 จุด โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคงได้แก่ การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น ข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ที่ตลาดคาดว่าจะออกมาค่อนข้างดีซึ่งอาจจะส่งผลต่อการปรับตัวของตลาดหุ้นต่างประเทศต้นสัปดาห์หน้า รวมถึงรายงานยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมทั้งความคืบหน้าในการเจรจาเกี่ยวกับประเด็นหนี้ของกรีซ
นายณัฐชาติ เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทรินีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา ดัชนีมีความผันผวนแต่ยังสามารถเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวันได้ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ดัชนีมีการเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ จากปัจจัยหนุนราคาน้ำมันมีการรีบาวนด์กลับมา
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่ยังสร้างความผันผวนให้แก่ตลาดเกี่ยวกับการเจรจาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเยอรมนี และกรีซที่ยังไม่มีบทสรุปออกมา ซึ่งมีผลต่อสัญญาณของตลาดซื้อขายล่วงหน้าของนักลงทุนต่างชาติมีการทำ short มากขึ้น เพื่อเปิดสถานะใหม่ ทำให้ตลาดมีการแกว่งตัวไซด์เวย์
ทำให้แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ ประเมินว่าดัชนีมีโอกาสแกว่งตัวผันผวน โดยต้องติดตามการประชุมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ของสหภาพยุโรป 19 ประเทศ เกี่ยวกับการอนุมัติแผนช่วยเหลือกรีซชั่วคราว ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 11 ก.พ.58 ซึ่งจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นทั่วโลก พร้อมให้แนวต้าน 1,620-1,630 จุด แนวรับ 1,580 จุด
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์อีกรายประเมินทิศทางตลาดเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มเงินทุนจากต่างชาติยังไหลเข้าภูมิภาคต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 และเป็นการซื้อสุทธิถึง 11 จาก 14 วันหลังสุด ซึ่งที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 9 จาก 12 วันหลังสุด รวมกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ยอดซื้อสุทธิสะสมตั้งแต่ต้นปี 2552 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.8 หมื่นล้านบาท และหากเปรียบเทียบกับข้อมูลในอดีตจะพบว่า ยอดซื้อสะสมดังกล่าวมักจะพักตัวอยู่ที่ระดับราว 8-8.5 หมื่นล้านบาท ทำให้เชื่อว่าแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติยังคงมีเหลืออยู่อีกราว 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นการทยอยเข้าซื้อ และหนุนตลาดหุ้นไทยได้