ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเวลา 10.00 น. ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,578.51 จุด ปรับตัวลดลง 2.74 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,959.75 ล้านบาท
และเมื่อเวลา 10.45 น. ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,583.26 จุด เพิ่มขึ้น 2.01 จุด เปลี่ยนแปลง +0.13% มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 11,002.84 ล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เคที ซีมิโก้ ระบุดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ (2 ก.พ.) แกว่งตัวในกรอบตามตลาดหุ้นสำคัญในต่างประเทศที่ปรับตัวลดลง รับข่าวที่ตัวเลข GDP งวดไตรมาส 4/57 ของสหรัฐฯ ออกมาไม่ดี อย่างไรก็ดี ตลาดฯ ยังได้แรงหนุนจากที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ได้ปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่พุ่งแรงกว่าร้อยละ 8% ทำให้ตลาดของประเทศ Commodity ได้รับผลดี ซึ่งตลาดหุ้นไทยมี Commodity มากเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มน้ำมันมีน้ำหนักต่อภาพรวมตลาดสูง ดังนั้น อาจทำให้ตลาดบ้านเราเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดภูมิภาคได้
“คาดว่าเป็นภาวะกดดันระยะสั้น นักลงทุนยังเล่นเทรดดิ้งได้ เนื่องจากอยู่ในช่วงการประกาศผลประกอบการ และอาจซื้อหุ้นที่จ่ายปันผลดีก็ได้ โดยในวันนี้ให้แนวรับ 1,570-1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด” นักวิเคราะห์ กล่าว
สอดคล้องต่อฝ่ายวิเคราะห์ บล.เคจีไอ คาดว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบจำกัดในเดือน ก.พ. เนื่องจากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นอาจถูกหักล้างด้วยมูลค่าหุ้นที่ค่อนข้างตึงตัวในระยะสั้น ดังนั้น เรามองว่าหุ้นกลุ่มหลักน่าจะทรงตัว และแนะนำให้นักลงทุนเน้นหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นการลงทุนน่าสนใจ เช่น การลงทุนภาครัฐฯ หุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัว และหุ้นปันผลเด่น โดยหุ้นแนะนำในเดือน ก.พ. ประกอบด้วย CK*, ITD*, DEMCO*, IFEC, ASK, TMT, AAV*, ERW* และ TRUE*