ตลาดหลักทรพัย์แห่งประเทศไทย เมื่อเวลา 09.59 น. เปิดที่ 1,546.85 จุด เพิ่มขึ้น 9.49 จุด เปลี่ยนแปลง +0.62% มูลค่าการซื้อขาย 2,466.07 ล้านบาท และเมื่อ 10.03 น. เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,549.50 จุด เพิ่มขึ้น 12.14 จุด เปลี่ยนแปลง +0.79% มูลค่าการซื้อขาย 4,656.02 ล้านบาท
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่จะปรับตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ยกเว้นตลาดญี่ปุ่น ที่ติดลบเล็กน้อย ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ รวมถึงตลาดในยุโรป ต่างก็ปรับตัวขึ้น ภายหลังจากที่มีความคาดหวังว่า ทางธนาคารกลางยุโรป(ECB) จะออกมาตรการ QE โดยอาจจะมีอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบประมาณ 5 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยทาง ECB จะมีการประชุมใน 22 ม.ค.
นอกจากนี้ อาจจะมีแรงซื้อเข้ามาจากความคาดหวังผลประกอบการในปี 57 ของบริษัทจดทะเบียน ดังนั้น ตลาดฯ น่าจะปรับตัวขึ้นได้ด้วย 2 ปัจจัยดังกล่าว รวมทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบก็มีการรีบาวนด์ขึ้นมาด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,540-1,550 จุด
ด้านฝ่ายวิเคราะห์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป คาดดัชนีฝันวผนในแดนบวก โดยได้รับผลดีจากแรงซื้อเก็งกำไรต่อการประชุม ECB ที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งคาดหมายการดำเนินนโยบาย QE ขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้านในประเทศ ความกังวลต่อการส่งออกที่ไม่ได้ตามเป้าเข้ามากดดันมากขึ้น ย้ำความหวังต่อการเร่งเบิกจ่ายนโยบายภาครัฐรักษาการขยายตัวของเศรษฐกิจจากเป้าที่ 4% เน้นการลงทุนเป็นรายตัวในระยะสั้น
SET ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่รอดูผลการประชุม ECB ที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงเย็นว่า จะมีการดำเนินมาตรการ QE หรือไม่ และจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนได้มากขนาดไหนจากการคาดหมายวงเงินระดับ 5 แสนล้านในการประชุมครั้งนี้ ดัชนี SET ปิดที่ 1,537.36 จุด เพิ่มขึ้น 2.27 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.8 หมื่นล้านบาท
โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม การเมืองของกรีซ ที่ต้องดำเนินการเลือกตั้งใหม่ ในวันที่ 25 ม.ค. การประชุม กนง. วันที่ 28 ม.ค. และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 28 ม.ค.
