“ประพันธ์” จับตาการประมูลหุ้นโรงกลั่นบางจากของบริษัท ปตท.จำกัด ส่อไม่โปร่งใส เสมือนล็อกเป้าให้บริษัทในเครือ หวั่นผิดวัตถุประสงค์ แถมยังส่อผูกขาดเหมือนเดิม ตรวจสอบพบ 2 ใน 4 บริษัทที่ยื่นประกวดราคาเป็นบริษัทที่มีความเกี่ยวพันกับอดีตผู้บริหาร ปตท. มีสิทธิชนะการประมูลสูง
นายประพันธ์ คูณมี นักกฎหมายอิสระ เปิดเผยต่อ “ASTVผู้จัดการ” ว่า กรณีที่มติบอร์ดบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เคยประชุมเห็นชอบแนวทางการเพิ่มการแข่งขันในธุรกิจพลังงาน และลดอำนาจการผูกขาดของ ปตท.โดยให้ ปตท.ดำเนินการตามมติ ครม.2544 ก่อนที่จะมีการแปรรูป ให้เร่งขายหุ้นในโรงกลั่นบางจาก ซึ่งวันนี้ได้มีการเปิดประมูลซื้อหุ้น บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) ที่ ปตท.ถืออยู่ในสัดส่วน 27.22% โดยขณะนี้มีผู้ที่จะเข้าร่วมประมูลแล้ว 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.บริษัท ซัสโก้ จำกัด มหาชน (SUSCO) 2.บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) 3.บริษัท เมอร์เมดมาริไทม์ จำกัด (มหาชน) และ 4.บริษัท Nido Petroleum Limited (NDO) ซึ่งในเรื่องนี้ทางบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ได้ว่าจ้างให้บริษัทหลักทรัพย์ภัทร และบริษัท โกลด์แมน แซคส์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ความน่าสนใจอยู่ที่ขั้นตอนการประมูลที่แต่ละบริษัทต้องเสนอผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เมล ก็คือ เงื่อนไขของการประมูลเขียนไว้ว่า บริษัทเข้าประมูลต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันไม่ต่ำว่าบริษัทละ 10,000 ล้านบาท ซึ่งตรงจุดนี้ก็จะสามารถตัดผู้เข้าประมูลไปได้ 2 รายคือ บริษัท ซัสโก้ จำกัด มหาชน (SUSCO) และบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) นอกจากนั้น การประมูลครั้งนี้มีความผิดปกติที่ผู้จัดการประมูลได้มีการให้ผู้ประมูลยื่นรายละเอียด หรือฮาร์ดแวร์การประมูลภายในวันจันทร์หน้า (12 ม.ค.) ก่อนเวลา 17.00 น. แทนที่จะเป็นภายในวันนี้ ทำให้ไม่เป็นการแข่งขันในลักษณะโปร่งใส
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า อยากให้จับตาประเด็นสำคัญจากการดูเงื่อนไข และความสัมพันธ์กับบริษัท ปตท.และบริษัทผู้เข้าร่วมประมูลยังมีความสัมพันธ์กัน เช่น บริษัท Nido Petroleum Limited และบริษัทเมอร์เมดมาริไทม์ จำกัด ที่เป็นนอมินีของกลุ่มผู้บริหาร บริษัท ปตท. เสมือนว่าเป็นการเปิดขายหุ้นบางจากแต่กลับมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ ปตท. ที่อาจจะได้รับการชนะประมูลในครั้งนี้ ซึ่งก็จะผิดวัตถุประสงค์ไม่ได้มีการเพิ่มการแข่งขัน และยังไม่ได้ลดอำนาจการผูกขาดของบริษัท ปตท.เกี่ยวกับธุรกิจพลังงาน แต่เป็นการกระจายผลประโยชน์ให้บริษัทลูกในลักษณะนอมินี
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าว “ASTVผู้จัดการ” ได้ตรวจสอบบริษัท Nido Petroleum Limited ผู้เสนอเข้าประมูลหุ้นโรงกลั่นบางจาก พบว่า เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ประเทศออสเตรเลีย ดำเนินธุรกิจด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ โดยปัจจุบันได้รับสัมปทานขุดเจาะแหล่งปิโตรเลียมในประเทศฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
ประเด็นสำคัญคือ Nido Petroleum Limited (NDO) ได้ถูกบริษัท BCP Energy International Pte. Ltd.ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท บางจากปิโตรเลียม ตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับด้านพลังงาน ปิโตรเคมี และทรัพยากรธรรมชาติ ในต่างประเทศ โดยได้เข้าไปถือหุ้นอยู่ถึง 81.41 %
อนึ่ง บริษัท BCP Energy International Pte. Ltd. จัดตั้งและดำเนินการตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2557 โดยบริษัท บางจากฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ขณะเดียวกัน สำหรับบริษัท เมอร์เมดมาริไทม์ จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบพบว่า เป็นบริษัทย่อยของบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)หรือ TTA ซึ่งมีนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตผู้บริหารบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นประธานกรรมการ และนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งพบว่า บมจ.เมอร์เมด มาริไทม์ มีบริษัท TTA ถือหุ้นอยู่ถึง 57.1%