สศค. ยังหวังจีดีพีไทยโตได้ถึง 1% หลังส่งออก และท่องเที่ยวฟื้น แต่ไม่เป็นตามเป้าหมาย เพราะการเบิกจ่ายงบลงทุนของประเทศอืด ชี้เศรษฐกิจที่ยังเติบโตได้เพราะกินบุญเก่า แนะรัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นออกมาเพิ่มเติม
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 57 จะขยายตัวได้มากกว่า 1% ต่อปี เพราะการส่งออก และการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น รวมถึงฐานเศรษฐกิจของไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาต่ำ ทำให้การขยายตัวเศรษฐกิจไตรมาส 4 ปีนี้ออกมาสูง แต่อาจไม่ถึง 1.4% ต่อปี ตามที่ สศค.ประมาณการไว้ เนื่องจากการเบิกจ่ายงบลงทุนของประเทศยังมีเบิกจ่ายได้น้อยกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้มาก
สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณปี 58 ถึงวันที่ 5 ธ.ค.57 วงเงิน 2.57 ล้านล้านบาท เบิกจ่ายได้เพียง 550,000 ล้านบาท หรือ 21.38% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ประมาณ 35% ซึ่งการเบิกจ่ายงบประจำ 2.13 ล้านล้านบาท ทำได้ดี เบิกจ่ายได้ถึง 525,000 ล้านบาท หรือ 24.68% แต่การเบิกจ่ายงบลงทุน 444,000 ล้านบาท เบิกจ่ายได้ 25,100 ล้านบาท หรือ 5.65% เท่านั้น
ทั้งนี้ การเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ แม้ว่าจะมีสัดส่วนมูลค่า 5-6% ของจีดีพี เทียบกับการส่งออก และการท่องเที่ยวที่มีมูลค่า 70% ของจีดีพี หรือการบริโภคภาคเอกชนที่มีมูลค่า 50% ของจีดีพี แต่การใช้จ่ายภาครัฐจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคเอกชนลงทุนตาม ทำให้การลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัวได้เร็ว
นายเอกนิติ ยอมรับว่าสาเหตุที่เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ทุกวันนี้เพราะกินบุญเก่าที่เหลือน้อยลงทุกที ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้น้อยต่ำกว่าศักยภาพที่ต้องโตไม่น้อยกว่า 4% ต่อปี หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไม่เร่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจในอนาคตก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาโต
นายเอกนิติ กล่าวเสริมว่า รัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นออกมาเพิ่มเติม ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้ต่ำกว่าแค่ 1% ต่อปี แต่ปีหน้าจะขยายตัวได้สูงกว่านี้มาก