ตลาดหุ้นไทยเจอพิษโอเปกคงกำลังการผลิต ส่งผลให้หุ้นพลังงานตัวใหญ่ร่วงยกแผง ชี้หากราคาน้ำมันในตลาดโลกหากปรับตัวลงลึกจริง ก็จะส่งผลดีต่อ ศก. เพราะไทยมีการใช้พลังงานถึง 18% ของ GDP เพียงแต่ช่วงแรกอาจได้รับผลกระทบในแง่ของกลุ่มพลังงานที่ถ่วงตลาดฯ เท่านั้น
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชเค โอเอสเค(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง 5.91 จุด ลงไปที่ระดับ 1,593.91 จุด เป็นการตอบรับผลจากโอเปกคงกำลังการผลิต ทำให้ราคาน้ำมันโลกอ่อนตัวลงอย่างหนัก กดดันให้เกิดแรงเทขายหุ้นในกลุ่มพลังงานออกมามากโดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม บมจ.ปตท.(PTT) เนื่องจากมีน้ำหนักค่อนข้างมากในตลาดบ้านเรามากกว่า 20%
ขณะที่ตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียวันนี้ ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก รับผลดีจากราคาน้ำมันลดลงทำให้ต้นทุนภาคธุรกิจถูกลงด้วย ขณะที่กลุ่มพลังงานในแต่ละตลาดในเอเชียไม่ได้มีน้ำหนักมากเท่ากับตลาดหุ้นไทย
แต่หากมองว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกหากปรับตัวลงลึก ก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศได้ เพราะไทยมีการใช้พลังงานถึง 18% ของ GDP ของไทย เพียงแต่ช่วงแรกอาจได้รับผลกระทบในแง่ของกลุ่มพลังงานที่ถ่วงตลาดฯ เท่านั้น
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า คาดว่าตลาดยังปรับตัวขึ้นไปได้เนื่องจากมองว่ากองทุน LTF-RMF จะยังช่วยหนุนตลาดฯ โดยเฉพาะในเดือน ธ.ค.จะมีเม็ดเงินเข้ามามาก โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาหรือไม่ พร้อมทั้งติดตามตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน และการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ โดยให้แนวรับ 1,587 จุด ส่วนแนวต้าน 1,605 จุด