ผู้ว่าการ ธปท. เผยปี 58 ยังต้องเกาะติดภาวะ ศก.โลก และดูแลสมดุลในประเทศ 4 ด้านหลัก ทั้งอัตราแลกเปลี่ยน ดบ. ระบบสถาบันการเงิน คุณภาพสินเชื่อ ฐานะการคลัง และดุลบัญชีเดินสะพัด ส่วนการเลื่อนเลือกตั้งไปในปี 59 โดยภาพรวมยังไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ซึ่งที่ผ่านมา หลายฝ่ายอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การดูแลภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 58 ในส่วนของ ธปท. ยังคงต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกซึ่งยังมีแนวโน้มไม่สดใสนัก โดยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ยังถือว่าโชคดีที่เศรษฐกิจของประเทศในอาเซียนยังมีความเข้มแข็ง เมื่อเทียบกับหลายภูมิภาคในโลก
โดยมองว่าแม้ปีหน้าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีโอกาสในการเติบโตได้ดีกว่า แต่เศรษฐกิจสหภาพยุโรปยังมีความผันผวน ส่วนเศรษฐกิจญี่ปุ่นนั้น ยังน่าเป็นห่วงในเรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมาจะเห็นแต่การดูแลในเรื่องนโยบายการเงิน
ขณะที่เศรษฐกิจของจีนยังชะลอตัว และต้องติดตามต่อไป และจากที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวมากกว่าที่อื่นนั้น ก็จะต้องมาพิจารณาว่าจะใช้จุดนี้เป็นโอกาสต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร
อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้นนั้น ประเทศไทยต้องดูแลและสร้างสมดุลเศรษฐกิจ 4 ด้าน ได้แก่ นโยบายการเงินในรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย, ระบบสถาบันการเงิน ต้องดูแลคุณภาพสินเชื่อ, ฐานะการคลังของประเทศที่ต้องมีเสถียรภาพ ซึ่งไทยได้รับการยอมรับและมีความเชื่อมั่นจากต่างชาติในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งดูแลความสมดุลของดุลบัญชีเดินสะพัดด้วย
ส่วนแนวโน้มที่ไทยอาจจะต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเป็นปี 59 จากเดิมที่คาดว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งได้ในปี 58 นั้น ผู้ว่าฯ ธปท. กล่าวว่า ภาพรวมยังไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นซึ่งที่ผ่านมาหลายฝ่ายอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การดูแลภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 58 ในส่วนของ ธปท. ยังคงต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกซึ่งยังมีแนวโน้มไม่สดใสนัก โดยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ยังถือว่าโชคดีที่เศรษฐกิจของประเทศในอาเซียนยังมีความเข้มแข็ง เมื่อเทียบกับหลายภูมิภาคในโลก
โดยมองว่าแม้ปีหน้าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีโอกาสในการเติบโตได้ดีกว่า แต่เศรษฐกิจสหภาพยุโรปยังมีความผันผวน ส่วนเศรษฐกิจญี่ปุ่นนั้น ยังน่าเป็นห่วงในเรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมาจะเห็นแต่การดูแลในเรื่องนโยบายการเงิน
ขณะที่เศรษฐกิจของจีนยังชะลอตัว และต้องติดตามต่อไป และจากที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวมากกว่าที่อื่นนั้น ก็จะต้องมาพิจารณาว่าจะใช้จุดนี้เป็นโอกาสต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร
อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้นนั้น ประเทศไทยต้องดูแลและสร้างสมดุลเศรษฐกิจ 4 ด้าน ได้แก่ นโยบายการเงินในรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย, ระบบสถาบันการเงิน ต้องดูแลคุณภาพสินเชื่อ, ฐานะการคลังของประเทศที่ต้องมีเสถียรภาพ ซึ่งไทยได้รับการยอมรับและมีความเชื่อมั่นจากต่างชาติในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งดูแลความสมดุลของดุลบัญชีเดินสะพัดด้วย
ส่วนแนวโน้มที่ไทยอาจจะต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเป็นปี 59 จากเดิมที่คาดว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งได้ในปี 58 นั้น ผู้ว่าฯ ธปท. กล่าวว่า ภาพรวมยังไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นซึ่งที่ผ่านมาหลายฝ่ายอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างอย่างเป็นขั้นเป็นตอน