ตลาดหลักทรัพย์เพิ่มเหตุเพิกถอน 4 หลักทรัพย์ “โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี - ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง - ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์และยานภัณฑ์” โดยทั้ง 4 บริษัทมีหน้าที่ดำเนินการแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนตามแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดเพื่อให้มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นบริษัทจดทะเบียน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศเพิ่มเหตุเพิกถอนหลักทรัพย์ดังนี้ คือ กรณีเข้าข่ายต้องปรับปรุงฐานะการเงินและการดำเนินงาน (NC ระยะที่ 1) STHAI ได้นำส่งงบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ฉบับที่สำนักงาน ก.ล.ต.แจ้งให้บริษัทแก้ไขและงบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีมายังตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าต่ำกว่าศูนย์เป็นจำนวน (195.35) ล้านบาท และ (148.15) ล้านบาทตามลำดับ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาแล้วจึงประกาศให้ STHAI เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติม เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2542 กรณีมีผลการดำเนินงานหรือฐานะการเงินที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนตามข้อ 9(6) (ง) ที่ระบุว่า
“งบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีแสดงว่าส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์” ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินการดังนี้ กรณีแรกเริ่มจากประกาศว่าหลักทรัพย์ของ STHAI เข้าข่ายต้องปรับปรุงฐานะการเงินและการดำเนินงานระยะที่ 1 (NC ระยะที่ 1) ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 โดยคงเครื่องหมาย SP และ NC หลังจากนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ STHAI แจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทราบภายในวันที่ 17 ธันวาคม 2557 เพื่อเผยแพร่แก่ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนถึงทางเลือกว่า บริษัทจะทำแผนฟื้นฟูกิจการเสนอผู้ถือหุ้นหรือจะฟื้นฟูกิจการตามพระราชบัญญัติล้มละลายหรือจะขอเพิกถอนโดยสมัครใจหรือเลือกทางเลือกอื่นใดที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทตลอดจนกำหนดเวลาดำเนินการในทางเลือกดังกล่าว
และสุดท้าย ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะให้เวลาบริษัทในการปรับปรุงฐานะการเงินและการดำเนินงานเป็นเวลา 3 ปี กำหนดเป็น 3 ระยะ แต่ละระยะมีเวลา 1 ปี และจะประกาศรายชื่อทุกระยะ ได้แก่ NC ระยะที่ 1, NC ระยะที่ 2 และ NC ระยะที่ 3 โดยบริษัทอาจขอขยายระยะเวลาได้ 1 ครั้ง เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี (รวมระยะเวลาทั้งหมดไม่เกิน 4 ปี) หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการให้มีคุณสมบัติพ้นเหตุเพิกถอนภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพิจารณาเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทต่อไป
สำหรับกรณีนำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2557 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2557 ล่าช้าเกินกว่า 180 วัน เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนดังต่อไปนี้ ยังไม่นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2557 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2557 ซึ่งล่าช้าเกินกว่า 180 วัน จึงเป็นเหตุให้เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนเพิ่มเติมตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2542 ข้อ 9(3) และข้อ 9(5) และนโยบายการประกาศเข้าเกณฑ์อาจถูกเพิกถอนกรณีบริษัทจดทะเบียนนำส่งงบการเงินล่าช้าเกินกว่าที่กำหนด
ประกอบด้วย บริษัท โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จำกัด (มหาชน) (PRO) บริษัท ซันไทยอุตสาหกรรม ถุงมือยาง จำกัด (มหาชน) (STHAI) บริษัท ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (TUCC) และบริษัท ยานภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) (YNP) ทั้งนี้ PRO, STHAI, TUCC และ YNP มีหน้าที่ดำเนินการแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนตามแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดเพื่อให้มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นบริษัทจดทะเบียน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศเพิ่มเหตุเพิกถอนหลักทรัพย์ดังนี้ คือ กรณีเข้าข่ายต้องปรับปรุงฐานะการเงินและการดำเนินงาน (NC ระยะที่ 1) STHAI ได้นำส่งงบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ฉบับที่สำนักงาน ก.ล.ต.แจ้งให้บริษัทแก้ไขและงบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีมายังตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าต่ำกว่าศูนย์เป็นจำนวน (195.35) ล้านบาท และ (148.15) ล้านบาทตามลำดับ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาแล้วจึงประกาศให้ STHAI เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติม เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2542 กรณีมีผลการดำเนินงานหรือฐานะการเงินที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนตามข้อ 9(6) (ง) ที่ระบุว่า
“งบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีแสดงว่าส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์” ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินการดังนี้ กรณีแรกเริ่มจากประกาศว่าหลักทรัพย์ของ STHAI เข้าข่ายต้องปรับปรุงฐานะการเงินและการดำเนินงานระยะที่ 1 (NC ระยะที่ 1) ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 โดยคงเครื่องหมาย SP และ NC หลังจากนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ STHAI แจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทราบภายในวันที่ 17 ธันวาคม 2557 เพื่อเผยแพร่แก่ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนถึงทางเลือกว่า บริษัทจะทำแผนฟื้นฟูกิจการเสนอผู้ถือหุ้นหรือจะฟื้นฟูกิจการตามพระราชบัญญัติล้มละลายหรือจะขอเพิกถอนโดยสมัครใจหรือเลือกทางเลือกอื่นใดที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทตลอดจนกำหนดเวลาดำเนินการในทางเลือกดังกล่าว
และสุดท้าย ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะให้เวลาบริษัทในการปรับปรุงฐานะการเงินและการดำเนินงานเป็นเวลา 3 ปี กำหนดเป็น 3 ระยะ แต่ละระยะมีเวลา 1 ปี และจะประกาศรายชื่อทุกระยะ ได้แก่ NC ระยะที่ 1, NC ระยะที่ 2 และ NC ระยะที่ 3 โดยบริษัทอาจขอขยายระยะเวลาได้ 1 ครั้ง เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี (รวมระยะเวลาทั้งหมดไม่เกิน 4 ปี) หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการให้มีคุณสมบัติพ้นเหตุเพิกถอนภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพิจารณาเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทต่อไป
สำหรับกรณีนำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2557 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2557 ล่าช้าเกินกว่า 180 วัน เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนดังต่อไปนี้ ยังไม่นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2557 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2557 ซึ่งล่าช้าเกินกว่า 180 วัน จึงเป็นเหตุให้เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนเพิ่มเติมตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2542 ข้อ 9(3) และข้อ 9(5) และนโยบายการประกาศเข้าเกณฑ์อาจถูกเพิกถอนกรณีบริษัทจดทะเบียนนำส่งงบการเงินล่าช้าเกินกว่าที่กำหนด
ประกอบด้วย บริษัท โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จำกัด (มหาชน) (PRO) บริษัท ซันไทยอุตสาหกรรม ถุงมือยาง จำกัด (มหาชน) (STHAI) บริษัท ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (TUCC) และบริษัท ยานภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) (YNP) ทั้งนี้ PRO, STHAI, TUCC และ YNP มีหน้าที่ดำเนินการแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนตามแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดเพื่อให้มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นบริษัทจดทะเบียน
