"วายแอลจี" คาดแรงเทขายเริ่มลดลง อีกทั้งดีมานต์ทองคำแท่งช่วยพยุงราคา ดึงทองคำไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ ชี้การแข็งค่าของดอลลาร์ที่กดดันบาทอ่อนค่าลงเรื่อยๆ จะช่วยกดดันให้ราาคาทองคำลดลงอย่างค่อนข้างจำกัด
นายวรุต รุ่งขำ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส ประเมินทิศทางราคาทองคำในช่วงนี้ ว่า ปัจจัยที่กดดันราคาทองคำในรอบนี้ คือการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีผลต่อการอ่อนตัวของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา
ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ต้องติดตามดูการย่อตัวลงมาและการตั้งฐานของราคาทองคำ หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะมีการย่อตัวลงอย่างต่อเนื่องจากแรงขายที่ค่อนข้างมาก แต่พบว่าการทำระดับต่ำสุดใหม่ของราคาทองคำเริ่มชะลอตัวลง เหตุเพราะมีแรงซื้อจากทองคำแท่งเข้ามาพยุงราคาทองคำไว้ ให้เริ่มตั้งฐานได้
อย่างไรก็ตามหากราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้น แต่ไม่มีปัจจัยสนับสนุนมากพออาจส่งผลให้เกิดแรงขายในราคาทองคำออกมาอีกครั้ง
"สัปดาห์นี้ ต้องดูการตั้งฐานของราคา หากไม่สามารถทำจุดต่ำสุดใหม่ได้ คิดว่ากรอบในการชะลอตัวลงอาจเริ่มจำกัด"
ทั้งนี้ นักลงทุน ต้องจับตาดูแนวรับ 1,110 -1,050 ดอลลาร์/ออนซ์ หากมีการย่อตัวลงมา ทดสอบโซนดังกล่าว นักลงทุนที่ลงทุนระยะยาว สามารถเข้าสะสมทองคำเพื่อรอขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นไป โดยเมื่อปรับตัวขึ้นไม่พ้น 1,160 ดอลลาร์/ออนซ์ แนะนำให้แบ่งทองคำออกขาย แต่หากผ่านไปได้ สามารถถือทองคำต่อเพื่อไปขายที่บริเวณ1,200 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังต้องจับตาการเคลื่อไหวของค่าเงินบาทเพื่อเป็นปัจจัยในการตัดสินใจ เพราะการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่ามากขึ้น ซึ่งการออ่นค่าของเงินบาทไทยจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยพยุงราคาทองคำในประเทศปรับตัวลดลงได้ค่อนข้างจำกัด