ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดวันที่ 5 พฤศจิกายน 2557 ที่ระดับ 1,577.40 จุด ลดลง 7.75 จุด เปลี่ยนแปลง -0.49% มูลค่าการซื้อขาย 56,714.31 ล้านบาท โดยแตะจุดสูงสุดที่ 1,587.83 จุด ต่ำสุดที่ 1,572.77 จุด
ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงกว่า 10 จุด เป็นการปรับฐานจากแรงขายทำกำไร เนื่องจากคาดว่าผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.) จะไม่มีการเพิ่มวงเงินอัดฉีดเข้าระบบผ่านมาตรการ QE นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ได้คงอัตราดอกเบี้ยและได้มีการมองว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวช้าเล็กน้อย หลังจากมีการเล็งที่จะปรับลดประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทย จึงตัวเร่งให้มีการเพิ่มแรงขายทำกำไรออกมามากขึ้นขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.) ดัชนีฯ หลุดแนว 1,580 จุดลงมา ทำให้เป็นผลลบในแง่จิตวิทยาตลาดฯ อาจจะปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรแต่คงจะไม่มาก พร้อมให้แนวรับ 1,575 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AKR มูลค่าการซื้อขาย 3,110.22 ล้านบาท ปิดที่ 2.66 บาท เพิ่มขึ้น 0.36 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,789.18 ล้านบาท ปิดที่ 186.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,459.91 ล้านบาท ปิดที่ 199.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
GEL มูลค่าการซื้อขาย 1,345.63 ล้านบาท ปิดที่ 1.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท
AEC มูลค่าการซื้อขาย 1,089.48 ล้านบาท ปิดที่ 1.87 บาท เพิ่มขึ้น 0.11 บาท