เผยมติที่ประชุม กนง. คงดอกเบี้ยที่ร้อยละ 2 เชื่อหนุนเศรษฐกิจระยะยาว ห่วงการลงทุนภาครัฐล่าช้า และเศรษฐกิจโลกอาจไม่ฟื้นตามคาด ขณะที่ ธปท. เตรียมที่ปรับลดตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้และปีหน้าลง ในการประชุม 26 ธ.ค.นี้ สำหรับเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 มีแนวโน้มขยายตัวน้อยกว่าที่คาดไว้ จากอุปสงค์และการใช้จ่ายภาครัฐที่ช้ากว่าคาด และการส่งออกยังอ่อนแอ ขณะที่เงินเฟ้อลดลงตามราคาพลังงานและสินค้าเกษตร
นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. มีมติ 6 เสียงต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2 ต่อปี เนื่องจากคณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปีหน้า และนโยบายการเงินในปัจจุบันยังคงผ่อนปรนและไม่เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจรวมถึงสอดคล้องกับการรักษาเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว
อย่างไรตาม คณะกรรมการยังมีความเป็นห่วงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และความรวดเร็วในการดำเดินงานโครงการลงทุนของภาครัฐ ซึ่ง ธปท.มองว่าโอกาสที่โครงการลงทุนของภาครัฐจะมีโอกาสล่าช้า แต่หากลงทุนได้ตามแผนที่วางไว้ก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในปีหน้า แต่เชื่อว่าการกระตุ้นดังกล่าวยังไม่สามารถชดเชยความอ่อนแอของตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ โดยเฉพาะภาคการส่งออก
ดังนั้น ธปท.จึงเตรียมที่ปรับลดตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้และปีหน้าลง ในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 ธันวาคม 2557 สำหรับเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 มีแนวโน้มขยายตัวน้อยกว่าที่คาดไว้จากอุปสงค์และการใช้จ่ายภาครัฐที่ช้ากว่าคาด และการส่งออกยังอ่อนแอ ขณะที่เงินเฟ้อลดลงตามราคาพลังงานและสินค้าเกษตร
สำหรับคณะกรรม 1 ท่าน เห็นว่า ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 เนื่องจากเห็นว่านโยบายการเงินควรผ่อนปรนเพื่อเพิ่มแรงกระตุ้นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า
ส่วนการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารญี่ปุ่น หรือคิวอี เชื่อว่า จะไม่กระทบต่อเงินทุนเคลื่อนย้ายมายังประเทศไทยมากนัก เนื่องจากตลาดได้คาดการณ์ไว้แล้ว เช่นเดียวกับการยุติ QE ของสหรัฐฯ แต่ทาง ธปท.จะติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด และพยายามทำความเข้าใจกับตลาดการเงินและผู้ที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนให้ทำการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินไว้
