โบรกเกอร์คาดซื้อขายหุ้น “บางกอกแอร์เวย์ส” วันแรก (3 พ.ย.57) คึกคัก คาดราคาไม่ต่ำกว่าจองยันต่างชาติสนใจ มั่นใจราคาอยู่ระหว่าง 25-30 บาท ชี้นักลงทุนต่างชาติจ่อซื้อหุ้นเพิ่มใตลาดหลักทรัพย์ หลังการเปิดจองลุ้นให้ต่างชาติล้นกว่า 1.5 เท่า เผยแผนลงทุนขยายฝูงบินใหม่เพิ่มอีก 43 ลำถึงปี 2561 รวมทั้งขยายเส้นทางบินเพิ่มในเมืองท่องเที่่ยวให้มีการเชื่อมต่อกันรองรับการเปิดเสรีอาเซียน ล่าสุดจ่อเพิ่มไฟล์ตกรุงเทพฯ-สมุยจากเดิม 36 เที่ยวบินเป็น 50 เที่ยวบินต่อวัน รวมทั้ง กทม.-กระบี่, กทม.-เชียงใหม่รองรับช่วงไฮซีซันสอดรับการรับเครื่องบินใหม่เข้ามาเพิ่มในเดือนนี้อีก
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ กล่าวถึงแนวโน้มการซื้อขายหุ้นของบริษัท การบินกรุงเทพ หรือบางกอกแอร์เวย์ส ซึ่งใช้ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์ว่า BA ซึ่งทำการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน 520 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 25 บาท และอีก 210 ล้านหุ้นเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเดิมของนางสาวปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ให่้แก่นักลงทุนแบบเจาะจงบนกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) ซึ่งจะทำการซื้อขายวันแรกในวันนี้ (3 พ.ย.) ว่าจะมีแนวโน้มสดใสและคึกคัก เพราะหุ้น BA นี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนไทยและต่างชาติ ซึ่งคาดว่าระดับราคาซื้อขายจะไม่ต่ำกว่าจอง และคาดว่าระดับราคาจะขึ้นลงอยู่ระหว่าง 25-30 บาท/หุ้น
สาเหตุที่ทำให้หุ้น BA ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนรายใหญ่ เช่น ฮ่องกง ญี่ปุ่น และไต้หวัน มีความสนใจลงทุนมาก ซึ่งเห็นได้จากการเปิดจองขายหมด ไม่เพียงพอกับความต้องการของนักลงทุนแถมล้นถึง 1.5 เท่า แต่บริษัทก็ไม่สามารถจัดหาหุ้นให้กับนักลงทุนได้ตามความต้องการ ซึ่งคาดว่าวันซื้อขายจะมีนักลงทุนให้ความสนใจซื้อขายมาก รวมถึงนักลงทุนไทยที่มีความต้องการลงทุนในหุ้น BA ด้วย
“นักลงทุนเอเซียสนใจหุ้น BA มากเพราะเห็นความสามารถในการทำกำไร มีแผนงานที่ชัดเจนในการขยายฝูงบินและเส้นทางบินที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งแผนการลงทุนอื่นๆ ที่สามารถทำกำไรได้และมีแผนการตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังการซื้อสูง” โบรกเกอร์รายหนึ่ง กล่าว
สำหรับสัดส่วนรายได้หลักของบางกอกแอร์เวย์ส มาจากการทำธุรกิจการบิน 80% และธุรกิจที่ได้รับสัมปทานจากสนามบินสุวรรณภูมิ เช่น ธุรกิจผลิตอาหารบนเครื่องบิน ธุรกิจคลังสินค้าระหว่างประเทศ และธุรกิจให้บริการภาคพื้นดิน รวมทั้งสิ้น 13% ส่วนที่เหลือเป็นธุรกิจอื่นๆ ในสนามบินสมุย และสนามบินสุโขทัย ส่วนแผนงานที่บางกอกแอร์เวย์ส นำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปขยายฝูงบินใหม่ และปรับเปลี่ยนทดแทนฝูงบินเดิม 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 19-20% นอกจากนี้จะนำไปปรับโรงซ่อมที่สนามบินสุรรณภูมิ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สนามบินสมุย 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เหลือเป็นเงินที่ใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
ทั้งนี้ บางกอกแอร์เวย์สมีแผนขยายฝูงบินเป็น 43 ลำในปี 2561 ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องบินเพียง 25 ลำ และมีแผนขยายเส้นทางบินเพิ่มขึ้นในเส้นทางหลักที่มีรายได้และไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสาร เช่น กทม.-สมุย เดิมบิน 36 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มเป็น 50 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนได้ผ่านคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแล้ว รอขั้นตอนอนุมัติต่อไปซึ่งคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันพอดี นอกจากนี้ยังเตรียมขยายเพิ่มเส้นทางบินในเส้นทาง กทม.-เชียงใหม่, กทม.-สุโขทัย และ กทม.-กระบี่ จะเพิ่มขึ้นอีก 14 เที่ยวบินต่อวันเป็น 98 เที่่ยวบินต่อวัน 28 เที่ยวต่อวันและ 42 เที่ยวต่อวันตามลำดับ
ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการเปิดเส้นทางบินในจุดเชื่อมต่อสำคัญๆ เช่น เชียงใหม่-อุดร, เชียงใหม่-ภูเก็ต, เชียงใหม่-มัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ซึ่งเป็นการรองรับการเปิดประตูสู่อาเซียน ซึ่งขณะนี้จังหวัดเหล่านี้มีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งภูเก็ตที่กำลังก่อสร้างสนามบินเพิ่มเพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ปริมาณพื้นที่ของสนามบินคับแคบไม่เพียงพอ อนาคตบางกอกแอร์เวย์สจะให้สนามบินหลักๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย และสุโขทัย เป็นเซ็นเตอร์เพื่อรองรับนักท่องเที่่ยวให้สามารถเชื่อมโยงกันได้ทุกจุดเพื่ออำนวยความสะดวกให้มากยิ่งขึ้น
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ กล่าวถึงแนวโน้มการซื้อขายหุ้นของบริษัท การบินกรุงเทพ หรือบางกอกแอร์เวย์ส ซึ่งใช้ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์ว่า BA ซึ่งทำการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน 520 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 25 บาท และอีก 210 ล้านหุ้นเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเดิมของนางสาวปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ให่้แก่นักลงทุนแบบเจาะจงบนกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) ซึ่งจะทำการซื้อขายวันแรกในวันนี้ (3 พ.ย.) ว่าจะมีแนวโน้มสดใสและคึกคัก เพราะหุ้น BA นี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนไทยและต่างชาติ ซึ่งคาดว่าระดับราคาซื้อขายจะไม่ต่ำกว่าจอง และคาดว่าระดับราคาจะขึ้นลงอยู่ระหว่าง 25-30 บาท/หุ้น
สาเหตุที่ทำให้หุ้น BA ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนรายใหญ่ เช่น ฮ่องกง ญี่ปุ่น และไต้หวัน มีความสนใจลงทุนมาก ซึ่งเห็นได้จากการเปิดจองขายหมด ไม่เพียงพอกับความต้องการของนักลงทุนแถมล้นถึง 1.5 เท่า แต่บริษัทก็ไม่สามารถจัดหาหุ้นให้กับนักลงทุนได้ตามความต้องการ ซึ่งคาดว่าวันซื้อขายจะมีนักลงทุนให้ความสนใจซื้อขายมาก รวมถึงนักลงทุนไทยที่มีความต้องการลงทุนในหุ้น BA ด้วย
“นักลงทุนเอเซียสนใจหุ้น BA มากเพราะเห็นความสามารถในการทำกำไร มีแผนงานที่ชัดเจนในการขยายฝูงบินและเส้นทางบินที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งแผนการลงทุนอื่นๆ ที่สามารถทำกำไรได้และมีแผนการตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังการซื้อสูง” โบรกเกอร์รายหนึ่ง กล่าว
สำหรับสัดส่วนรายได้หลักของบางกอกแอร์เวย์ส มาจากการทำธุรกิจการบิน 80% และธุรกิจที่ได้รับสัมปทานจากสนามบินสุวรรณภูมิ เช่น ธุรกิจผลิตอาหารบนเครื่องบิน ธุรกิจคลังสินค้าระหว่างประเทศ และธุรกิจให้บริการภาคพื้นดิน รวมทั้งสิ้น 13% ส่วนที่เหลือเป็นธุรกิจอื่นๆ ในสนามบินสมุย และสนามบินสุโขทัย ส่วนแผนงานที่บางกอกแอร์เวย์ส นำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปขยายฝูงบินใหม่ และปรับเปลี่ยนทดแทนฝูงบินเดิม 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 19-20% นอกจากนี้จะนำไปปรับโรงซ่อมที่สนามบินสุรรณภูมิ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สนามบินสมุย 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เหลือเป็นเงินที่ใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
ทั้งนี้ บางกอกแอร์เวย์สมีแผนขยายฝูงบินเป็น 43 ลำในปี 2561 ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องบินเพียง 25 ลำ และมีแผนขยายเส้นทางบินเพิ่มขึ้นในเส้นทางหลักที่มีรายได้และไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสาร เช่น กทม.-สมุย เดิมบิน 36 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มเป็น 50 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนได้ผ่านคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแล้ว รอขั้นตอนอนุมัติต่อไปซึ่งคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันพอดี นอกจากนี้ยังเตรียมขยายเพิ่มเส้นทางบินในเส้นทาง กทม.-เชียงใหม่, กทม.-สุโขทัย และ กทม.-กระบี่ จะเพิ่มขึ้นอีก 14 เที่ยวบินต่อวันเป็น 98 เที่่ยวบินต่อวัน 28 เที่ยวต่อวันและ 42 เที่ยวต่อวันตามลำดับ
ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการเปิดเส้นทางบินในจุดเชื่อมต่อสำคัญๆ เช่น เชียงใหม่-อุดร, เชียงใหม่-ภูเก็ต, เชียงใหม่-มัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ซึ่งเป็นการรองรับการเปิดประตูสู่อาเซียน ซึ่งขณะนี้จังหวัดเหล่านี้มีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งภูเก็ตที่กำลังก่อสร้างสนามบินเพิ่มเพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ปริมาณพื้นที่ของสนามบินคับแคบไม่เพียงพอ อนาคตบางกอกแอร์เวย์สจะให้สนามบินหลักๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย และสุโขทัย เป็นเซ็นเตอร์เพื่อรองรับนักท่องเที่่ยวให้สามารถเชื่อมโยงกันได้ทุกจุดเพื่ออำนวยความสะดวกให้มากยิ่งขึ้น