xs
xsm
sm
md
lg

“สรรพากร” เร่งดึง E-Commerce จำนวนกว่า 9 หมื่นราย เข้าระบบภาษี เผยมูลค่าธุรกิจสูงกว่า 7 แสนล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สรรพากร” เร่งดึงธุรกิจ E-Commerce จำนวนกว่า 9 หมื่นรายที่ยังเสียภาษีไม่ถูกต้องเข้าสู่ระบบภาษี ชี้ เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง และมีมูลค่าสูงถึง 7 แสนล้าน

นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวในงานสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ในหัวข้อ “การเสียภาษีของผู้ประกอบการธุรกิจ E-Commerce เพื่อต้องการทำความเข้าใจในการเสียภาษี เนื่องจากที่ผ่านการค้าขายผ่านระบบ E-Commerce เติบโตสูงมากถึงร้อยละ 20 โดยในปี 2555 มีมูลค่าถึง 500,000 ล้านบาทและในปี 2556 มีมูลค่าถึง 700,000 ล้านบาท แบ่งเป็นผู้ประกอบการทำการค้ากับภาครัฐ B-G มูลค่าประมาณ 300,000 ล้านบาท สัดส่วนประมาณร้อยละ 45 จำนวน 100 ราย การทำการค้าแบบภาคธุรกิจกับธุรกิจ B-B มูลค่าประมาณ 200,000 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 40 จำนวนประมาณ 10,000 ราย และการทำธุรกิจขายกับผู้บริโภค B-C มูลค่าประมาณ 120,000 ล้านบาท แต่มีผู้ประกอบการรายย่อย ยังขาดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องภาษีอากร ซึ่งเข้ามาประกอบธุรกิจเกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จำนวนมากถึง 90,000 ราย คิดเป็นร้อยละ 58.03 จากผู้ประกอบการทั้งหมด 155,100 ราย รวมมูลค่าการซื้อขาย ทั้งสิ้น 744,419 ล้านบาท

นายประสงค์ กล่าวว่า ต้องการสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการรายย่อยซึ่งทำธุรกิจผ่าน E-Commerce ให้เสียภาษีอย่างถูกต้องมากกว่าการหลบเลี่ยงภาษี หวังดึงกลับมาให้ได้ประมาณร้อยละ 20-30 ของผู้เสียภาษีอย่างไม่ถูกต้องในช่วงแรก เพราะธุรกิจขนาดใหญ่จะรู้เรื่องภาษีได้ดีแล้ว แต่ธุรกิจรายเล็กต้องการให้เรียนรู้และเสียภาษีอย่างถูกต้อง รองรับการเติบโตในอนาคต เพราะรายได้จากการขาย 300,000 บาทแรกจะได้รับการยกเว้น และหากรายได้ถึง 1.8 ล้านบาทต่อปีไม่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่นหากค้าภายผ่านอินเตอร์เน็ตรายได้ 2 ล้านบาทต่อปี หากมีกำไรร้อยละ 5 เป็นกำไรประมาณ 100,000 บาทต่อปี ทำธุรกิจ 3 ปี มีกำไร 300,000 บาท แต่หากมุ่งเพียงการหลีกเลี่ยงไม่จดทะเบียนภาษี หลีกเสี่ยงด้วยการ ปรับเปลี่ยนยี่ห้อ เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนเลขที่บัญชี กรมสรรพากรติดตามเจอเสียภาษีย้อนหลัง 3 ปี ถูกปรับทั้งดอกเบี้ยและเบี้ยปรับถึง 700,000 บาท นับว่าไม่คุ้มค่าอย่างแน่นอน เพราะกรมสรรพากรจะรู้ข้อมูลจากทุกแหล่งซึ่งทำการค้า

ดังนั้น จึงต้องการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ ขยายธุรกิจโดยเฉพาะการเติบโต และกลับมาเสียภาษีอย่างถูกต้อง เมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีจะได้ค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านได้มากขึ้นและหากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว นับว่าไทยเสียภาษีต่ำมาก จึงต้องการให้ผู้ประกอบการ ร่วมกันสร้างแบรนด์เนม เพื่อสู้กับประเทศเพื่อนบ้าน จึงเชิญชวนให้นำ Banner สัญลักษณ์ “E-Commerce” ไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ของผู้ประกอบการ เพื่อ Link เข้าเว็บเพจหาความรู้เกี่ยวกับกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกรมสรรพากรพร้อมให้การแนะนำ จึงได้รวบรวมองค์ความรู้ภาษี สำหรับผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ที่เว็บไซด์กรมสรรพากร www.rd.go.th และยังเพิ่มช่องทางให้บริการตอบปัญหาภาษีอากรในเรื่องดังกล่าวอีกหนึ่งช่องทาง ที่ศูนย์บริการข้อมูลสรรพากร RD Call Center โทร. 1161 กด 1 และ 5
กำลังโหลดความคิดเห็น